เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเอกสารในองค์กร ด้วย Jobcan Workflow

ในหนึ่งองค์กรหรือบริษัทนั้นจะมีงานเอกสารมากมายเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันอาจมีได้ถึงหลายร้อยฉบับเลยทีเดียว หากต้องจัดการเอกสารเหล่านี้ทีละแผ่น ทีละใบ คงเป็นเรื่องที่วุ่นวายต้องใช้ทรัพยากรมากมายทีเดียว หลายองค์กรเลยมองหาซอฟต์แวร์มาเป็นตัวช่วยในการจัดการเอกสารและเดินเอกสารให้อัตโนมัติตามขั้นตอนที่เราต้องการ เพื่อเข้าสู่องค์กรแบบ Paperless วันนี้ JOBCAN จึงเอาคุณสมบัติและตัวอย่างแบบฟอร์มที่สามารถสร้างและอนุมัติตามขั้นตอนที่คุณต้องการได้บน Jobcan Workflow นั้นจะมีอะไรบ้าง ช่วยจัดการเอกสารให้ง่ายขึ้นด้วยคุณสมบัติของ Jobcan Workflow สามารถสร้างแบบฟอร์มได้มากเท่าที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่หรือบริษัทขนาดเล็กต่างก็มีความต้องการในการจัดเอกสารในปริมาณที่ต่างกันซึ่งส่วนใหญ่มักจะต้องสร้างในปริมาณมาก Jobcan Workflow จึงไม่มีการจำกัดปริมาณในการสร้างแบบฟอร์มสามารถสร้างได้ตามจำนวนที่ต้องการใช้ได้เลย รองรับทุกรูปแบบการใช้งานของแบบฟอร์ม แม้จะเรียกว่าเป็นแบบฟอร์มแต่ในการจัดการเอกสารก้ยังมีอะไรหลายอย่างที่ต้องปรับเปลี่ยนไปตามเงื่อนไขความต้องการของบริษัทดังนั้น Jobcan Workflow จึงเปิดให้คุณสามารถสร้างแบบฟอร์มที่สามารถตั้งค่าประเภทการป้อนข้อมูลได้หลากหลายด้วยวิธีการตั้งค่าที่ง่ายและไม่ซับซ้อน จึงสามารถสร้างเอกสารแบบฟอร์มที่มีรูปแบบเฉพาะของบริษัทได้ด้วย กำหนดลำดับขั้นในการอนุมัติได้อย่างยืดหยุ่น นอกจากการสร้างเอกสารแบบฟอร์มที่สามารถกำหนดได้ตามความต้องการแล้ว Jobcan Workflow ยังสามารถให้คุณออกแบบขั้นตอนการเดินทางไปตอบรับคำขออนุมัติในแต่ละขั้นตอนได้ด้วย และยังกไหนดเงื่อนไขเพื่อให้เอกสารไปตามเส้นทางที่เราต้องการได้ เช่น หากคุณต้องการอนุมัติค่าใช้จ่ายในราคาต่ำกว่า 1,000 บาทให้เอกสารเดินทางไปขออนุมัติที่ผู้จัดการ แต่หากเป็นเป็นค่าใช้จ่ายมากกว่า 1,000,000 บาทให้เดินทางไปถึงผู้บริหารเป็นต้น ตัวอย่างแบบฟอร์มหรือการจัดการเอกสารที่คุณสามารถสร้างได้ด้วย Jobcan Workflow แบบฟอร์มอนุมัติ การออกแบบฟอร์มอนุมัตินับเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกบริษัทต้องใช้ แน่นอนว่า Jobcan Workflow จะมีให้คุณสามารถออกแบบและใช้งานได้ตั้งแต่รูปแบบของเอกสารไปจนถึงเงื่อนไขการอนุมัติว่าควรให้ใครอนุมัติแบบฟอร์มบ้าง ช่วยลดงานเรื่องการเดินเอกสารของฝ่ายบุคคลไปได้มากทีเดียว แบบฟอร์มแจ้งเตือนการเปลี่ยนที่อยู่ การเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวของพนักงานก็เป็นงานที่ต้องมีแบบฟอร์มแจ้งความจำนงที่ชัดเจนซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องจัดการเอกสารแต่หากใช้ Jobcan Workflow ซึ่งสามารถสร้างแบบฟอร์มและยื่นได้ภายในระบบ เลย […]

5ส คืออะไร ไขข้อข้องใจวิธีการใช้งาน 5S เพื่อเพิ่มประสิทธิผลองค์กร

ในการทำงานร่วมกันของบริษัทหรือองค์กรต่างๆ จะต้องการกำหนดแนวทางแต่ละด้านร่วมกันเพื่อให้องค์กรสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างราบรื่น บางแนวทางก็สามารถประยุกต์ใช้ได้ง่ายและมีประโยชน์อย่างมากจนทำให้ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย เช่นเดียวกับ 5s หรือ 5ส ที่หลายองค์กรทั่วโลกเลือกใช้ วันนี้ JOBCAN จะมานำเสนอเรื่องราวของ 5ส ว่ามันคืออะไรและสามารถประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในองค์กรได้อย่างไรบ้าง 5ส หรือ 5s มีอะไรบ้าง 5ส หรือ 5s เป็นแนวทางที่ใช้เพื่อการรักษาสิ่งแวดล้อมและปรับปรุงแก้ไขการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยแนวทางนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งจะเรียกว่า 5s นั่นเอง ส ที่ 1 สะสาง (Seiri หรือ Sort) การสะสางในที่นี้คือการแยกของหรือกระบวนการทำงานให้ชัดเจนว่าสิ่งใดจำเป็น สิ่งใดไม่จำเป็น หากสิ่งใดจำเป็นก็หาเข้ามาใช้ แต่หากไม่จำเป็นก็จัดการกำจัด เคลื่อนย้ายหรือส่งต่อออกไป ส ที่ 2 สะดวก (Seiton หรือ Set in Order) ความสะดวกคือการจัดวางสิ่งของเครื่องใช้ในสำนักงานหรือจัดเก็บข้อมูลเอกสารให้สามารถใช้งานได้สะดวก ลดเวลาการค้นหา ส ที่ 3 สะอาด (Seiso หรือ Shine) การรักษาความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งที่ไม่ทำไม่ได้ดังนั้นจึงเป็นหนึ่งในแนวทางการปฏิบัติของทุกองค์กร ส […]

ISO 9001 มาตรฐานระบบบริหารงานคุณภาพ

ISO คือองค์กรระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยจะมีตัวเลขด้านหลังที่แสดงถึงประเภทของมาตรฐานที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นเราจึงได้เห็นองค์กรใหญ่หลายแห่งมีการรับรองคุณภาพของ ISO ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนหรือบริษัทก็ตาม เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยรับประกันมาตรฐานในเรื่องสำคัญให้สามารถมั่นใจได้ วันนี้ JOBCAN จะมานำเสนอมาตรฐานระบบบริหารงานคุณภาพหรือที่หลายคนอาจเคยเห็นในชื่อว่า ISO 9001 ทำความรู้จักกับ ISO 9001 ISO 9001 คือมาตรฐานระบบคุณภาพซึ่งกำกับดูแลทั้งการออกแบบ พัฒนาการผลิต การติดตั้งและการบริการ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่องค์กรธุรกิจทั่วโลกต่างให้ความสำคัญ สามารถบ่งบอกได้ถึงคุณภาพและประสิทธิภาพที่ดีของการดำเนินงานภายในองค์กร ซึ่ง ISO ได้ตรวจสอบมาแล้ว จึงช่วยให้บริษัทหรือองค์กรที่ได้รับการตรวจสอบขั้นตอนวิธีการทำงานผ่านระบบอย่างละเอียดมาและได้รับการรับรองจาก ISO 9001 นั้นจะได้รับการยืนยันคุณภาพเป็นที่ยอมรับระดับโลก หลักการบริหารงานคุณภาพของ ISO 9001 หลักการบริหารงานคุณภาพของ ISO 9001 มีอยู่ด้วยกัน 8 หลักการ ได้แก่ การให้ความสำคัญกับลูกค้า (Customer Focus) ความเป็นผู้นำ (Leadership) การมีส่วนร่วมของบุคลากร (Involvement of People) การบริหารเชิงกระบวนการ (Process Approach) การบริหารที่เป็นระบบ (System Approach) การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง […]

ISO 27001 มาตรฐานสากลสำหรับระบบการจัดการความปลอดภัยของข้อมูล (Information Security Management Systems: ISMS)

ความสำคัญของข้อมูลส่วนตัวนั้นมีเพิ่มขึ้นทุกวันทำให้การดูแลความปลอดภัยของข้อมูลเป็นสิ่งจำเป็นเมื่อเราต้องใช้ข้อมูลของเราเพื่อการใช้งานเทคโนโลยีต่างๆ ด้วยแล้วการมีมาตรฐานสากลเข้ามาช่วยกำหนดและชี้วัดความปลอดภัยของข้อมูลย่อมช่วยให้ผู้บริโภคที่ต้องให้ข้อมูลส่วนตัวในการใช้ผลิตภัณฑ์หรือเทคโนโลยีนั้นๆ วางใจมากขึ้น ทำความรู้จักกับ ISO 27001 มาตรฐาน ISO (International Organization for Standardization) คือองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน เป็นการส่งเสริมกำหนดมาตรฐานระหว่างประเทศที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยมีเลขต่อท้ายเป็นแนวทางและวิธีการบริหารองค์การที่ต่างกันออกไป ISO 27001 นั้นเป็นมาตรฐานสากลในเรื่องของระบบการจัดการความปลอดภัยของข้อมูล (Information Security Management Systems: ISMS) โดยมีเป้าหมายเพื่อการประเมินความเสี่ยงในการออกแบบรักษาความปลอดภัยและการนำไปปฏิบัติ รวมถึงแนวทางการดำเนินงานและการบริหารจัดการที่จะช่วยในการเก็บรักษาข้อมูลอย่างปลอดภัย เป้าหมายหลักของ ISO 27001 คือการปกป้องข้อมูลที่สร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจทั้งในแบบออนไลน์และโดยตัวบุคคล ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าโลกของเราในปัจจุบันล้วนถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูลยิ่งมีข้อมูลมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีความได้เปรียบในเชิงธุรกิจมากขึ้นเท่านั้น โดยระบบ ISMS นั้นไม่มีเป็นโครงการที่มีระยะเวลาคงที่เพราะด้วยการพัฒนาของระบบต่างๆ การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลจึงต้องได้รับการพัฒนาให้ก้างหน้าอย่างรวดเร็วไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องมีการประเมินซ้ำอยู่เสมอ ISO 27001 มีการตรวจประเมินอย่างไร การเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของธุรกิจทำให้ระบบการรักษาความปลอดภัยจำเป็นต้องก้าวหน้าอย่างรวดเร็วตามไปด้วยซึ่งส่งผลให้การประเมินมาตรฐานการรักษาข้อมูลจะต้องปรับตัวตามอยู่เสมอ โดยจะมีการประเมินอยู่ 3 ระยะ ได้แก่ การตรวจประเมินระยะที่ 1 การทบทวนระบบ ISMS อย่างไม่เป็นทางการ การตรวจสอบอย่างไม่เป็นทางการนี้จะทำเพื่อให้ผู้ประเมินรู้จักและคุ้นเคยกับองค์กรก่อนโดยจะมีการตรวจสอบเอกสารสำคัญในระบบ ISMS และตรวจสอบระบบภาพรวมก่อนรวมถึงเป็นการให้ทั้งสองฝ่ายจากบริษัทและผู้ประเมินได้ทำความรู้จักกันด้วย การตรวจประเมินระยะที่ 2 การตรวจประเมินความสอดคล้องอย่างเป็นทางการ ในการตรวจระยะที่ […]

Workflow ช่วยให้การทำงานมีระเบียบมากยิ่งขึ้น

ในการทำงานร่วมกับคนมากมายนั่นสิ่งที่มักจะเป็นปัญหาอย่างมากเลยก็คือการประสานงาน ยิ่งหากงานชิ้นหนึ่งจะต้องใช้ความเห็นจากคนหลายฝ่ายเข้ามาร่วมตัดสินใจด้วยแล้ว แม้จะไม่ใช่เรื่องยากก็ยังอาจเกิดปัญหาหรือความล่าช้าได้ ดังนั้นในเวลาหลายยุคสมัยที่ผ่านมามักมีการคิดค้นระบบขั้นตอนการทำงานที่จะช่วยประหยัดเวลาและทำให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ให้ทุกอย่างสามารถลื่นไหลไปได้ด้วยตัวของมันเองโดยอัตโนมัติ ซึ่งเราเรียกกันว่า workflow Workflow คืออะไร Workflow คือการวางระบบขั้นตอนการทำงานที่เชื่อมโยงจากหลายฝ่ายให้สามารถดำเนินไปได้อย่างไหลลื่นไม่ติดขัดหรือตกหล่นได้โดยง่าย โดย workflow นี้คุณจะเห็นได้ถึงภาพรวมของขั้นตอนและวิธีการต่างๆ ในการทำงาน ซึ่งจะทำให้งานออกมาไม่ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำไมฝ่ายบุคคลจึงควรมี Workflow งานของฝ่ายบุคคลคือการดูแลพนักงานและบันทึกการเข้า-ออกของพนักงานซึ่งเป็นงานละเอียดไม่ซับซ้อนมากนักแต่กลับต้องการความผิดพลาดน้อยที่สุด และบางครั้งยังเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เร่งด่วนและต้องเชื่อมต่อกับคนหลายคน หากทำอย่างไม่มี workflow อาจจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยเป็นสัปดาห์เพื่อให้ทุกขั้นตอนเสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ อ่าน 10 สิ่งที่ HR ควรรู้สู่การเป็นมืออาชีพได้ที่นี่ ตัวอย่างเช่นการอนุมัติวันลาพักร้อน โดยปกติเมื่อพนักงานยื่นเรื่องแล้ว เรื่องจะส่งไปที่หัวหน้าแผนกของพนักงาน จากนั้นไปยังผู้จัดการ และอาจจะต้องส่งไปถึงผู้อำนวยการให้ทำการอนุมัติ เมื่ออนุมัติเรียบร้อยเอกสารส่งถึงฝ่ายบุคคล ฝ่ายบุคคลจึงจะนำมาแจ้งพนักงานอีกที ซึ่งหากมี workflow จะสามารถทำให้ขั้นตอนเหล่านี้สมบูรณ์ได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น จุดเด่นที่ Workflow สามารถช่วยทุกคนในองค์กรได้ การมี workflow คือการลดปัญหาระหว่างขั้นตอนออกไปให้ระบบงานสามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้นว่าตอนนี้อยู่ที่ขั้นตอนใดหรือมีปัญหาใดเกิดขึ้น ซึ่งการมี workflow จะทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องต่างทำงานง่ายขึ้น เรามาดูจุดเด่นหลัก 3 ข้อให้ชัดเจนกันดีกว่า ส่งคำขอและอนุมัติจากที่ใดก็ได้ผ่านทางคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน หากพนักงานต้องออกนอกสถานที่หรือมีเหตุให้ไม่สามารถแจ้งกับบริษัทได้โดยตรงสามารถทำการแจ้งผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่มีอยู่ได้ทันทีโดยผ่านระบบ hr […]

ออกไปพบลูกค้า หรือ จะ WFH ก็ clock in ผ่านมือถือได้

ในการทำธุรกิจย่อมต้องมีการออกไปพบปะพูดคุยกับลูกค้ากันบ้าง ถือเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว โดยคนที่รับหน้าที่ออกไปนั้นมักจะเผชิญปัญหาการตรวจสอบเวลาทำงานอยู่เสมอเพราะไม่สามารถเก็บหลักฐานการทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือ ยิ่งในปัจจุบันยังมีความจำเป็นต้อง Work from home อยู่บ่อยครั้ง หลายบริษัทจึงอยากจะจัดการเรื่องนี้กลายเป็นการสร้างความไม่พอใจให้กับหลายฝ่ายไปแทน ดังนั้นจะดีกว่าไหม หากพนักงานสามารถบันทึกการเข้า-ออกงาน หรือ clock in ได้แม้อยู่นอกบริษัท การ clock in นอกสถานที่ที่พนักงานต้องการ การ clock in นอกสถานที่นั้นต้องสามารถบันทึกและเก็บรายละเอียดได้ชัดเจนมากกว่าตอนตอกบัตรที่บริษัทและต้องมีความน่าเชื่อถือมากพอ ดังนั้น สิ่งที่พนักงานต้องการในการ clock in มีอยู่ 3 ประการหลักๆ ดังนี้ สามารถ clock-in ผ่านเครื่องมือสื่อสารที่พกพาได้สะดวก การเดินทางออกไปข้างนอกจะเป็นต้องมีความคล่องตัวสูง การพกพาเครื่องมือเฉพาะอาจจะไม่สะดวกและที่สำคัญวิธี clock-in จะต้องไม่ยุ่งยากจนกินเวลามากเกินไปด้วย ทั้งยังควรเป็นอุปกรณ์ที่คนทำงานทุกคนมีอยู่แล้วเพื่อลดต้นทุนในส่วนนี้สำหรับการรับมือการ Work from home ของพนักงานทุกคน ดังนั้นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์จึงเป็นเครื่องมือที่สะดวกสบายมากทีเดียว สามารถบันทึก Location ขณะ clock-in ได้ นอกจากการบันทึกว่ามีการ clock-in กี่โมงแล้วยังต้องมีการบันทึกโลเคชั่นหรือสถานที่การทำงานเพื่อให้มั่นใจว่าสถานที่ที่อยู่ถูกต้องตามการนัดหมายตามหน้าที่ เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบในภายหลัง สามารถลงหมายเหตุหรือเหตุผลอื่นเพิ่มเติมได้ […]

คนไทยควรรู้!! เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับลดหย่อนภาษี ปี 2564

การยื่นภาษีเงินได้เป็นเรื่องที่ต้องทำเป็นประจำทุกปีสำหรับผู้มีรายได้ หากในรายได้อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องจ่ายภาษีเพิ่มเติมก็จะต้องจ่ายเพิ่ม แต่บางคนก็สามารถได้เงินภาษีกลับคืนมาด้วยเช่นกัน เพราะมีรายการบางอย่างที่มีการกำหนดให้สามารถใช้ลดหย่อนการจ่ายภาษีได้ ดังนั้นก่อนการจ่ายภาษี เราสามารถวางให้คำนวณภาษีให้สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนได้มากที่สุดเพื่อประหยัดเงินในกระเป๋า ซึ่งสิทธิ์การลดหย่อนนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงในทุกปีจำเป็นต้องติดตามให้ดีเพื่อจะได้วางแผนได้อย่างเหมาะสม เรามาดูกันดีกว่าว่าในปี 2564 เราสามารถคำนวณภาษีเพื่อลดหย่อนส่วนใดได้บ้าง ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัวและครอบครัว เป็นค่าลดหย่อนที่หักออกเพราะคิดเป็นส่วนของการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าลดหย่อนส่วนตัว สามารถคำนวนภาษีลดหย่อนได้ 60,000 บาททันที ค่าลดหย่อนคู่สมรส สามารถคำนวนภาษีลดหย่อนได้ 60,000 บาทในกรณีที่คู่สมรสไม่มีรายได้ ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตร สามารถคำนวณภาษีได้ไม่เกิน 60,000 บาทต่อปี โดยสามีสามารถใช้ลดหย่อนได้ในกรณีที่ภรรยาไม่มีรายได้ เอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ลดหย่อนการฝากครรภ์และคลอดบุตรคือ ใบเสร็จรับเงินและใบรับรองแพทย์จากสถานพยาบาล ค่าลดหย่อนภาษีบุตร สามารถลดหย่อนได้คนละ 30,000 บาท การคำนวนภาษีเพื่อลดหย่อนในส่วนของการเลี้ยงดูบุตรมีเงื่อนไขดังนี้ ต้องเป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมตามกฎหมายอายุไม่เกิน 20 ปีหรือไม่เกิน 25 ปีและกำลังศึกษาอยู่ กรณีบุตรอายุเกิน 25 ปีขึ้นไป แต่มีสถานะเป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถจะลดหย่อนในกรณีของบุตรคนที่ 2 ได้ บุตรคนที่ 2 ที่เกิดก่อนปีพ.ศ. 2561 จะลดหย่อนได้ 30,000 บาท หากเกิดหลังจากปีพ.ศ. 2561 จะสามารถลดหย่อนได้ 60,000 บาท […]

คิดเงินเดือน ภาษี รายการลดหย่อนปี 2564

สำหรับเจ้าของธุรกิจหรือนายจ้างเรื่องหนึ่งที่ต้องทำเป็นประจำทุกเดือนก็คือการคิดเงินเดือนให้กับลูกจ้างหรือพนักงานโดยเฉพาะในช่วงที่สถานการณ์แปรปรวนจากโรคระบาดแบบนี้ หลายบริษัทให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน (Work form Home) การคิดเงินเดือนจึงนับว่าแทบจะต้องสร้างกติกากันใหม่เลยทีเดียว JOBCAN จึงขอนำเสนอรายละเอียดการคิดเงินเดือนว่า ในหนึ่งเดือนนี้เราต้องเอาอะไรมาคำนวณกันบ้าง การคิดเงินเดือนตามเวลาทำงาน ลูกจ้างที่รับเงินตามเวลาการเข้าทำงานมีหลายรูปแบบโดยส่วนใหญ่จะคิดเป็นรายวันและรายเดือน แต่เมื่อมีรายการเพิ่มเติมเข้ามาจะคำนวณเป็นรายชั่วโมงทันที สำหรับรายเดือนนั้นจะเป็นการนำรายได้ต่อเดือนหาร 30 ซึ่งเป็นจำนวนวันในหนึ่งเดือน ได้เป็นค่าจ้างรายวันจากนั้นก็นำค่าจ้างรายวันที่ได้มาหารชั่วโมงการทำงานต่อวัน ออกมาเป็นค่าจ้างรายชั่วโมงที่จะนำมาคำนวณต่อไป การเพิ่มหรือลดค่าจ้าง เงินเดือนส่วนใหญ่จะมีเหตุผลอยู่ 2 ข้อหลักที่เรามักพบได้บ่อยคือ OT หรือ การทำงานล่วงเวลา การทำงานล่วงเวลาหรือโอทีนั้นเป็นหนึ่งในวิธีที่ทำให้การคิดเงินเดือนมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นเพราะการทำงานล่วงเวลาในแต่ละเดือนนั้นจะไม่เท่ากัน ดังนั้นการคิดเงินเพิ่มเติมส่วนนี้จึงเป็นส่วนที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนทั้งสำหรับนายจ้างและลูกจ้าง โดยทางกระทรวงแรงงานได้กำหนดการคิดเงินเดือนสำหรับส่วนการทำงานล่วงเวลาไว้ดังนี้ ค่าล่วงเวลาในวันทำงานจะอยู่ที่ 1.5 เท่าของเงินเดือน วิธีคำนวณคือ (เงินรายรับต่อชั่วโมง x 1.5) x จำนวนชั่วโมงที่ทำล่วงเวลา  ค่าล่วงเวลาในวันหยุดจะอยู่ที่ 3 เท่าของเงินเดือน วิธีคำนวณคือ (เงินรายรับต่อชั่วโมง x3) x จำนวนชั่วโมงที่ทำล่วงเวลา การลา กระทรวงแรงงานได้กำหนดให้พนักงานหรือลูกจ้างต้องมีวันหยุดพักร้อนอย่างน้อย 6 วันต่อปีไม่รวมวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดราชการ ประเพณีต่างๆ ซึ่งอาจมีการตกลงมากกว่านั้นแล้วแต่นายจ้างจะตกลงกับลูกจ้าง แต่ในกรณีที่อยู่นอกเหนือข้อตกลงเช่น การขาดงานหรือการลาแบบไม่รับเงินจะต้องมีการหักรายรับของลูกจ้างออกตามเวลาที่ลูกจ้างขาดงาน หากขาดไป 2 ชั่วโมงก็ต้องหักรายรับออก […]

ยื่นภาษี-63-ระบบ payroll-คำนวณภาษี

คำนวณภาษีเงินได้ไม่ยากอย่างที่คิด เรื่องง่ายๆ ที่มนุษย์เงินเดือนทำได้หากวางแผนดี

เปิดศักราชใหม่แห่งการทำงาน หนึ่งเรื่องของมนุษย์เงินเดือนที่ต้องเตรียมตัวกันทุกต้นปีก็คือการยื่นภาษี เพราะตลอดปีที่อดทนทำงานกันมานั้นแต่ละคนก็มีรายรับที่เข้ามาแตกต่างกัน ดังนั้นในการคำนวณภาษีเพื่อยื่นกับสรรพากรของแต่ละคนก็ย่อมมีรายละเอียดที่แตกต่างกันด้วย แต่ไม่ว่าจะยื่นกันมาสักกี่ปีก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่จะทำได้คล่อง หรือเข้าใจในกระบวนการยื่นภาษีแบบแจ่มแจ้ง เพื่อคลายความสงสัยด้านการยื่นภาษีในปีนี้ JOBCAN รวบรวมข้อสงสัยที่คนเสียภาษีถามกันอยู่ทุกปีถึง 8 ข้อ รับรองว่า อ่านก่อน รู้ก่อน หมดความกังวลใจในเรื่องการยื่นภาษีอย่างแน่นอน เข้าใจก่อนยื่นภาษีเงินได้ของเราคือ ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 91 ! ภ.ง.ด. 90 คือ ผู้ที่มีรายได้นอกเหนือจากเงินเดือนที่ได้รับ เช่น ค้าขายแบบบุคคลธรรมดา เงินปันผล และรายได้อื่นๆ ภ.ง.ด. 91 คือคนที่มีเงินเดือน โบนัส และค่าครองชีพ โดยไม่มีรายได้จากทางอื่น คนทุกคนที่มีรายได้ต้องยื่นแบบเสียภาษี ไม่ว่าจะมีอายุเท่าใดก็ตาม โดยหากเป็นเด็กเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะให้นำไปยื่นร่วมกับพ่อและแม่ แต่หากอายุเกิน 18 ปี บรรลุนิติภาวะและมีรายได้แล้วก็ต้องยื่นแบบเสียภาษีเงินได้ ส่วนจะอยู่ในเกณฑ์ที่ได้รับการยกเว้นหรือต้องเสียภาษีเพิ่มเติมก็แยกตามแต่ละบุคคล คำนวณภาษีไม่ใช่เรื่องยาก หากวางแผนดีและมีตัวช่วยในการคิดภาษีเงินได้ รู้ก่อนยื่นภาษี เงินเดือนอย่างเรานี่ต้องเสียภาษีเท่าไหร่นะ? ในการคำนวณการยื่นภาษีนั้น เราจะใช้การคำนวณเงินได้ออกมาแบบรายปี คือการนำเงินได้ตลอด 12 เดือนมารวมกันได้เป็น ‘เงินได้สุทธิ’ ที่สามารถนำมาใช้เทียบกับอัตราภาษีที่ต้องเสียได้ดังนี้ […]

เงินเดือนเท่าไหร่ ถึงจะถูกใจคนทำงานในยุคนี้

คนทำงานสมัยนี้เขาอยากได้เงินเดือนกันเท่าไหร่? บริษัทต้อง offer ยังไงให้คนเก่งเลือกอยู่กับเรา

จากบทความก่อนหน้านี้ของ Jobcan เกี่ยวกับเป้าหมายในการทำงานของคนรุ่นใหม่ ที่นอกจากการตั้งเป้าหมายของการเติบโตในเรื่องของค่าตอบแทนแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ นั่นคือเรื่องของพัฒนาการในเรื่องงาน ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นคนทำงานรุ่นใหม่หรือรุ่นเก่า ก็ควรที่จะนึกถึงเรื่องเหล่านี้ควบคู่กันไปเสมอ เพื่อผลลัพธ์การทำงานที่ดี ในบทความที่แล้วเราพูดถึงคน Gen Y (พ.ศ.2523-2540 หรือ ปี 1980-1994) ที่กำลังเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในตลาดงานตอนนี้ เพราะพวกเข้าได้ก้าวเข้าสู่ช่วงอายุที่จะได้ทำงานครบเกือบทั้งเจเนอเรชันแล้ว ที่สำคัญยังกระจายตัวอยู่ตามอุตสาหกรรมต่างๆ และอยู่ในตำแหน่งการทำงานเกือบทุกระดับตั้งแต่พนักงานใหม่ ผู้จัดการ ผู้บริหาร ไปจนถึงเจ้าของกิจการ ลองคิดภาพคนเจนวายอายุย่างเข้า 30 หลายๆคนที่เริ่มมีกิจการ มีธุรกิจหรือบริษัทเป็นของตัวเอง ไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องความมั่นคงหรือบอกว่าจะดำเนินธุรกิจไปได้นานแค่ไหน แต่การที่คนเจนนี้ตั้งหน้าตั้งตาที่จะพัฒนาตนเองให้ประสบความสำเร็จให้ได้เร็วที่สุดเพื่อให้ได้มีเวลาไปใช้ชีวิตในแบบที่ตั้งเป้าหมายไว้ นั่นก็เป็นจุดหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าคนรุ่นนี้ไม่ได้มีแต่เรื่องของความอยากได้อยากมี ไม่เอาไหน เปลี่ยนงานบ่อย เอาใจยาก ลองมองในมุมคนทำงานเหมือนกันดูว่าอะไรที่ทำให้คนทำงานรุ่นนี้มีบุคลิกการทำงานหรือลักษณะแนวคิดต่อการทำงาน และทัศนคติต่อความเป็น “คนเก่ง” ของคนรุ่นนี้ก็แตกต่างไปจากคนรุ่นก่อน ถ้าจะมองหาเพื่อนร่วมงานมากความสามารถ คนเก่ง อาจไม่ได้วัดกันได้แค่เงินเดือน ข้ามมาพูดถึงเรื่องของการจัดการเงินเดือน พนักงานในปัจจุบัน HR หลายๆ บริษัทอาจจะมีนโยบายในการใช้ Head Hunter ให้ช่วยหาคนเก่ง ๆ มาทำงานให้ หรือแม้แต่การหาคอนเนคชันในวงการเพื่อจะได้การแนะนำคนที่จะมาช่วยงานในบริษัทคุณ ดังนั้นโครงสร้างเงินเดือนหรือนโยบายการจ่ายค่าตอบแทนให้พนักงานก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องให้รายละเอียด แน่นอนว่าเราไม่ได้บอกว่าคนทำงานเดี๋ยวนี้เห็นเงินมาก่อน แต่ถ้าหากคุณมีค่าตอบแทนหรือเงื่อนไขที่น่าสนใจ […]

นิยามความสำเร็จของแต่ละ Generation คนรุ่นใหม่ทำงานไม่เอาไหน จริงหรือ?

พูดกันถึงเรื่องระยะห่างระหว่างวัย หรือความต่างของ Generation เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ชอบสร้าง topic การพูดคุยหรือแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ โดยหนึ่งในข้อถกเถียงหลายๆครั้งจะมีเรื่องของความคิดเห็นหรือความแตกต่างทางความคิดระหว่างคนแต่ละช่วงวัยหรือคนแต่ละ Gen คนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ ว่ามีแนวคิดที่แตกต่างกันในหลายๆเรื่อง ด้วยความที่คนแต่ละช่วงวัยมีประสบการณ์ชีวิต และผ่านเหตุการณ์ในช่วงเวลาที่เติบโตมาแตกต่างกัน สภาพสังคม เศรษฐกิจ และค่านิยม ในบทความนี้ Jobcan จะกล่าวถึงค่านิยมของคนแต่ละ Generation ว่าแต่ละช่วงวัย ให้ความหมายและความสำคัญกับคำว่า ”ความสำเร็จ” เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ความเหมือนหรือแตกต่างนี้จะทำให้คนทุกวัยอยู่ร่วมกันได้อย่างเข้าอกเข้าใจและไม่มีปัญหาขัดแย้งซึ่งกันและกัน เพราะเรื่องของความสำเร็จและความมั่นคงของชีวิตเป็นเรื่องที่หลายคนวางแผนและให้ความสำคัญ ดังนั้นหากเราเข้าใจถึงการตั้งเป้าหมายหรือความคิดของคนหลาย Gen ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคม ก็จะทำให้เราเข้าใจถึงพฤติกรรมหรือเหตุผลของเขาเหล่านั้นว่าเหตุใดจึงมีการกระทำ คำพูด หรือความคิดในเรื่องต่างๆที่ทั้งเหมือนและแตกต่างกับเราที่อยู่คนละช่วงวัย Gen-B คน Gen-B หรือคนรุ่น Baby Boomer (คนที่เกิดในช่วงปี พ.ศ. 2489-2507) เป็นเจนเนอเรชั่นที่เติบโตมาในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง เป็นช่วงที่โลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคพัฒนาอุตสาหกรรม ดังนั้นคนในเจนนี้จึงมีการแข่งขันสูง ต้องทำงานหนัก และมีค่านิยมในการอดทนอดกลั้นต่อความยากลำบาก ประหยัด รอบคอบ และยึดถือเรื่องความซื่อสัตย์ กตัญญูรู้คุณ และเรื่องของจริยธรรม ให้ความสำคัญกับการมีอนาคตที่มั่นคง ความเจริญก้าวหน้าและจริงจังกับชีวิต […]