ISO 27001 มาตรฐานสากลสำหรับระบบการจัดการความปลอดภัยของข้อมูล (Information Security Management Systems: ISMS)

ความสำคัญของข้อมูลส่วนตัวนั้นมีเพิ่มขึ้นทุกวันทำให้การดูแลความปลอดภัยของข้อมูลเป็นสิ่งจำเป็นเมื่อเราต้องใช้ข้อมูลของเราเพื่อการใช้งานเทคโนโลยีต่างๆ ด้วยแล้วการมีมาตรฐานสากลเข้ามาช่วยกำหนดและชี้วัดความปลอดภัยของข้อมูลย่อมช่วยให้ผู้บริโภคที่ต้องให้ข้อมูลส่วนตัวในการใช้ผลิตภัณฑ์หรือเทคโนโลยีนั้นๆ วางใจมากขึ้น ทำความรู้จักกับ ISO 27001 มาตรฐาน ISO (International Organization for Standardization) คือองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน เป็นการส่งเสริมกำหนดมาตรฐานระหว่างประเทศที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยมีเลขต่อท้ายเป็นแนวทางและวิธีการบริหารองค์การที่ต่างกันออกไป ISO 27001 นั้นเป็นมาตรฐานสากลในเรื่องของระบบการจัดการความปลอดภัยของข้อมูล (Information Security Management Systems: ISMS) โดยมีเป้าหมายเพื่อการประเมินความเสี่ยงในการออกแบบรักษาความปลอดภัยและการนำไปปฏิบัติ รวมถึงแนวทางการดำเนินงานและการบริหารจัดการที่จะช่วยในการเก็บรักษาข้อมูลอย่างปลอดภัย เป้าหมายหลักของ ISO 27001 คือการปกป้องข้อมูลที่สร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจทั้งในแบบออนไลน์และโดยตัวบุคคล ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าโลกของเราในปัจจุบันล้วนถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูลยิ่งมีข้อมูลมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีความได้เปรียบในเชิงธุรกิจมากขึ้นเท่านั้น โดยระบบ ISMS นั้นไม่มีเป็นโครงการที่มีระยะเวลาคงที่เพราะด้วยการพัฒนาของระบบต่างๆ การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลจึงต้องได้รับการพัฒนาให้ก้างหน้าอย่างรวดเร็วไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องมีการประเมินซ้ำอยู่เสมอ ISO 27001 มีการตรวจประเมินอย่างไร การเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของธุรกิจทำให้ระบบการรักษาความปลอดภัยจำเป็นต้องก้าวหน้าอย่างรวดเร็วตามไปด้วยซึ่งส่งผลให้การประเมินมาตรฐานการรักษาข้อมูลจะต้องปรับตัวตามอยู่เสมอ โดยจะมีการประเมินอยู่ 3 ระยะ ได้แก่ การตรวจประเมินระยะที่ 1 การทบทวนระบบ ISMS อย่างไม่เป็นทางการ การตรวจสอบอย่างไม่เป็นทางการนี้จะทำเพื่อให้ผู้ประเมินรู้จักและคุ้นเคยกับองค์กรก่อนโดยจะมีการตรวจสอบเอกสารสำคัญในระบบ ISMS และตรวจสอบระบบภาพรวมก่อนรวมถึงเป็นการให้ทั้งสองฝ่ายจากบริษัทและผู้ประเมินได้ทำความรู้จักกันด้วย การตรวจประเมินระยะที่ 2 การตรวจประเมินความสอดคล้องอย่างเป็นทางการ ในการตรวจระยะที่ […]

วิธียื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ในช่วงต้นปีแบบนี้คนมีเงินได้ทุกคนจะต้องเริ่มยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากันแล้วซึ่งหลายคนอาจมีการคำนวณค่าลดหย่อนหรือการจ่ายภาษีกันเอาไว้ตั้งแต่สิ้นปีที่ผ่านมา และในตอนนี้กรมสรรพากรได้เปิดให้บุคคลที่มีรายได้ต้องยื่นภาษีกันแล้ว สำหรับใครที่เป็นมือใหม่หรือมือเก่าที่ยังยื่นภาษีกันไม่คล่องวันนี้ JOBCAN ได้เอาวิธีการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามาให้ดูกันแล้ว เข้าเว็บไซต์ ขั้นตอนแรกเราต้องเข้าเว็บไซต์ที่ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากันก่อนทางนี้เลย ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มยื่นเป็นครั้งแรกจะต้องสมัครสมาชิกกันก่อน แต่ใครที่เคยยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแล้วสามารถใช้เลขประจำตัวประชาชนกับพาสเวิร์ดเก่าเข้าได้เลย หากลืมรหัสผ่านก็ตั้งรหัสใหม่ได้ เวลาเข้าสู่ระบบอย่าลืมนำสมาร์ทโฟนมาวางไว้ใกล้ตัวด้วยเพราะครั้งนี้ต้องมีการยืนยันรหัส OTP กันก่อนเพื่อความปลอดภัย ประเภทแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่เราควรยื่น เข้าสู่ระบบเรียบร้อยแล้วหน้าต่อไปจะเป็นตัวเลือกแบบสำหรับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งจะมีให้เลือก 2 แบบด้วยกันแบบแรกคือแบบการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่เราจะกล่าวถึงกันต่อไปในบทความ ภ.ง.ด. 90/91 ซึ่งเป็นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ได้จากการจ้างแรงงานตามมาตรา 40(1)  ส่วนภ.ง.ด. 94 นั้นเป็นของคนที่มีรายได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน วิชาชีพอิสระ รับเหมา รับจ้าง ซ่อมบำรุง ขายสินค้า ร้านอาหาร ผู้ค้าออนไลน์ นักแสดง นักร้องและบริการอื่นๆ โดยเป็นการยื่นทุกครึ่งปี การยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ขั้นตอนที่ 1 กรอกและตรวจเช็คข้อมูลผู้มีเงินได้ ในขั้นตอนแรกของการยื่นจะเป็นการเช็คข้อมูลส่วนตัวพร้อมกับคำถามเกี่ยวกับสถานะว่ายังโสดอยู่หรือเปลี่ยนสถานะแล้ว หากมีร้านค้าหรือกิจการส่วนตัวจะต้องใส่ข้อมูลในหน้านี้ด้วย ขั้นตอนที่ 2 การกรอกเงินได้ หน้าถัดไปเป็นการกรอกเงินได้ที่ได้มาตลอดทั้งปีโดยเริ่มจากเงินเดือนก่อนให้กดที่ระบุข้อมูล จากนั้นกรอกใส่ช่องว่าง 3 ช่องได้แก่ เงินได้ทั้งหมด ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เลขผู้จ่ายเงินได้ โดยเราเป็นผู้คำนวณทุกอย่างให้เรียบร้อยซึ่งหากเราทำมากกว่าหนึ่งบริษัทในปีนั้นๆ […]

โครงสร้างเงินเดือนสำคัญอย่างไร?

เรื่องของเงินเดือนเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากทั้งกับบริษัทที่ต้องจ่ายค่าตอบแทนในการทำงานและพนักงานที่ต้องรับค่าตอบแทนที่ทำงานให้ ดังนั้นเงินเดือนหรือค่าตอบแทนนี้จึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ทุกองค์กรหรือบริษัทจะต้องมีบรรทัดฐานกำหนดอย่างชัดเจน ต้องเป็นไปอย่างยุติธรรมมากที่สุดด้วย ด้วยเหตุนี้เองทุกบริษัทที่มีลูกจ้างจึงควรจะมีโครงสร้างเงินเดือนเป็นของตัวเองเอาไว้ด้วยวันนี้ JOBCAN จะพาไปรู้จักกับโครงสร้างเงินเดือนกัน ไปดูกันเลย โครงสร้างเงินเดือนคืออะไร โครงสร้างเงินเดือน คือการกำหนดค่าตอบแทนที่องค์กรต้องจ่ายให้กับพนักงาน โดยจะกำหนดค่าตอบแทนต่ำสุดและสูงสุดเอาไว้อย่างชัดเจนตามการประเมินค่าของงานกับตลาดแรงงานเพื่อให้มีเงินเดือนที่สอดคล้องกับความเหมาะสมของสังคม นอกจากนี้โครงสร้างเงินเดือนยังกำหนดอัตราการปรับเงินเดือนเอาไว้ด้วยเพื่อให้เกิดความยุติธรรมในการจ่ายค่าตอบแทน เหตุผลที่ควรทำโครงสร้างเงินเดือน โครงสร้างเงินเดือนเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่ช่วยให้ฝ่ายบริหารสามารถประเมินค่าตอบแทนได้อย่างยุติธรรมตามค่าของงานมากขึ้น ทำให้การประเมินงานเป็นไปอย่างมีระบบและไม่เกิดความเหลื่อมล้ำภายในองค์กรอีกด้วย เรียกว่าเป็นเครื่องมือสามารถป้องกันความเสียหายได้ทั้งสองฝ่ายคือทั้งฝั่งบริษัทและฝั่งพนักงานเอง ประโยชน์ของการทำโครงสร้างเงินเดือน การมีโครงสร้างเงินเดือนสามารถสร้างประโยชน์ได้ทั้งกับองค์กรและพนักงานดังนี้ องค์กรมีโครงสร้างการจ่ายค่าตอบแทนชัดเจน พนักงานได้รับค่าตอบแทนอย่างยุติธรรม การมีโครงสร้างเงินเดือนสามารถยืนยันถึงความยุติธรรมในการจ่ายค่าตอบแทนให้กับพนักงานได้ส่วนหนึ่งแล้ว เพราะมีการกำหนดอัตราการจ่ายและการปรับขึ้น-ลงที่ชัดเจนเอาไว้ตามค่าของงานที่ได้ทำ จึงช่วยลดความขัดแย้งภายในองค์กรได้ด้วย องค์กรประเมินค่าของงานได้ง่ายขึ้น พนักงานมองเห็นทิศทางความก้าวหน้าได้ชัดเจน โครงสร้างเงินเดือน ถูกกำหนดขึ้นจากค่าของงานเป็นหลักทำให้บริษัทสามารถประเมินผลตอบแทนที่ควรจ่ายได้ง่าย ขณะเดียวกันพนักงานก็มองเห็นเส้นทางการพัฒนาตนเองได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ทำให้องค์กรสามารถก้าวไปข้างหน้าได้เร็วมากขึ้น นอกจากนี้การมีโครงสร้างเงินเดือนยังช่วยดึงดูดคนเก่งเข้ามาสนใจทำงานในบริษัทได้ด้วย เพราะเป็นตัวพิสูจน์ว่าองค์กรมีแนวทางพัฒนาที่ชัดเจน ใช้โครงสร้างเงินเดือนเป็นหนึ่งในเครื่องมือการบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัทหรือองค์กรขนาดใหญ่นั้นจะต้องมีการบริหารทรัพยากรอย่างคุ้มค่าในทุกด้านไม่เว้นแม้แต่ด้านทรัพยากรฝ่ายบุคคล ซึ่งการมีโครงสร้างเงินเดือนจะช่วยทำให้เห็นทรัพยากรที่ใช้ไปได้อย่างชัดเจน จึงสามารถนำเอาข้อมูลมาพัฒนาเพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุดต่อไปได้ง่าย หากองค์กรไม่มีการทำโครงสร้างเงินเดือนเอาไว้อาจเกิดปัญหาในการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่พนักงานได้ โดยการทำโครงสร้างเงินเดือนนั้นหากเป็นบริษัทหรือองค์กรขนาดเล็กที่มีพนักงานไม่มากนักสามารถทำได้เองไม่ยาก แต่หากเป็นองค์กรหรือบริษัทขนาดใหญ่ที่มีหลายตำแหน่งหน้าที่สามารถจ้างให้ทำโครงสร้างเงินเดือนของบริษัทได้ โดยที่โครงสร้างเงินเดือนจะเป็นการสร้างขึ้นเพื่อองค์กรหรือบริษัทแห่งใดแห่งหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ Jobcan Payroll ออกสลิป คำนวณภาษี คิดเงินเดือนออนไลน์สนใจระบบ Jobcan ติดต่อ 02-107-1867LINE@ : @jobcan_thFacebook : Jobcan Thailandลงทะเบียนสอบถามข้อมูล : https://bit.ly/3P0dVmg

Remote Working การทำงานรูปแบบใหม่

ในช่วงโควิดระบาดแบบนี้บริษัทหลายแห่งเริ่มมีการปรับตัวให้สามารถทำงานจากที่อื่นได้หรือที่เราเรียกกันว่า Work from home นั่นเอง ซึ่งความจริงแล้วก่อนที่จะมีการระบาดของโควิด 19 การทำงานทางไกลนี้ก็เริ่มมีขึ้นมาแล้ว ซึ่งจะถูกเรียกว่า remote working เป็นการทำงานทางไกลที่ไม่จำเป็นต้องเข้าบริษัทก็สามารถทำให้งานเสร็จสมบูรณ์ได้เช่นกัน  ปัจจัยหลักในการทำงานแบบ Remote working ในการทำงานแบบ remote working นั้นจะมีปัจจัยในการทำงานอย่างไรบ้างที่จะทำให้ผลงานที่ได้ไม่ต่างจากการทำงานที่ออฟฟิศตามปกติได้ และอาจจะให้ประสิทธิภาพมากกว่านั้น กำหนดเวลาการติดต่อประสานงานให้ชัดเจน แม้ว่าเวลาในการทำงานของ remote working จะเป็นอิสระที่ให้พนักงานทุกคนสามารถเลือกตามความสะดวกได้ แต่ก็ต้องมีช่วงเวลาที่ติดต่อประสานงานที่ตกลงกันเอาไว้ให้แน่ชัดเพื่อให้งานสามารถเดินไปตามเป้าหมายที่ถูกต้องได้ กำหนดเป้าหมายการทำงานให้ชัดเจน ในการทำงานไม่ว่าจะเป็นการทำงานแบบ remote workingหรือการทำงานแบบปกติก็ตามจะต้องมีการกำหนดเป้าหมายของการทำงานให้แน่ชัด โดยเฉพาะกับการทำงานทางไกลที่จะไม่ค่อยไม่เจอเพื่อนร่วมทีมบ่อยนักสามารถใช้การกำหนดเป้าหมายที่ย่อยลงมากขึ้นเป็นการสื่อสารทางหนึ่งได้ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพนับเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการทำงานทุกรูปแบบ แต่การทำงานทางไกลอย่าง remote working นั้นการสื่อสารจำเป็นต้องชัดเจนและมีประสิทธิภาพให้ได้มากที่สุดเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจสายเกินแก้ ประโยชน์ของ Remote working การทำงานแบบ remote working นั้นเป็นการทำงานรูปแบบที่นับว่ายากแต่กลับมีประโยชน์และข้อดีมากมายจนใครหลายคนอยากจะแนะนำการทำงานรูปแบบนี้ เราไปดูกันดีกว่าว่าประโยชน์ของการทำงานแบบนี้มีอะไรบ้างที่สามารถเห็นได้ชัดเจน สามารถลดต้นทุนได้ทั้งฝั่งบริษัทและฝั่งพนักงาน สำหรับบริษัทแล้วการทำงานแบบ remote working จะช่วยลดต้นทุนในเรื่องของสถานที่ทำงาน ค่าน้ำ ค่าไฟหรือค่าสาธารณูปโภคอื่นๆ ได้ และยังสามารถลดเรื่องค่าตอบแทนหรือสวัสดิการต่างๆ ออกไปเช่น […]

Workflow ช่วยให้การทำงานมีระเบียบมากยิ่งขึ้น

ในการทำงานร่วมกับคนมากมายนั่นสิ่งที่มักจะเป็นปัญหาอย่างมากเลยก็คือการประสานงาน ยิ่งหากงานชิ้นหนึ่งจะต้องใช้ความเห็นจากคนหลายฝ่ายเข้ามาร่วมตัดสินใจด้วยแล้ว แม้จะไม่ใช่เรื่องยากก็ยังอาจเกิดปัญหาหรือความล่าช้าได้ ดังนั้นในเวลาหลายยุคสมัยที่ผ่านมามักมีการคิดค้นระบบขั้นตอนการทำงานที่จะช่วยประหยัดเวลาและทำให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ให้ทุกอย่างสามารถลื่นไหลไปได้ด้วยตัวของมันเองโดยอัตโนมัติ ซึ่งเราเรียกกันว่า workflow Workflow คืออะไร Workflow คือการวางระบบขั้นตอนการทำงานที่เชื่อมโยงจากหลายฝ่ายให้สามารถดำเนินไปได้อย่างไหลลื่นไม่ติดขัดหรือตกหล่นได้โดยง่าย โดย workflow นี้คุณจะเห็นได้ถึงภาพรวมของขั้นตอนและวิธีการต่างๆ ในการทำงาน ซึ่งจะทำให้งานออกมาไม่ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำไมฝ่ายบุคคลจึงควรมี Workflow งานของฝ่ายบุคคลคือการดูแลพนักงานและบันทึกการเข้า-ออกของพนักงานซึ่งเป็นงานละเอียดไม่ซับซ้อนมากนักแต่กลับต้องการความผิดพลาดน้อยที่สุด และบางครั้งยังเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เร่งด่วนและต้องเชื่อมต่อกับคนหลายคน หากทำอย่างไม่มี workflow อาจจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยเป็นสัปดาห์เพื่อให้ทุกขั้นตอนเสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ อ่าน 10 สิ่งที่ HR ควรรู้สู่การเป็นมืออาชีพได้ที่นี่ ตัวอย่างเช่นการอนุมัติวันลาพักร้อน โดยปกติเมื่อพนักงานยื่นเรื่องแล้ว เรื่องจะส่งไปที่หัวหน้าแผนกของพนักงาน จากนั้นไปยังผู้จัดการ และอาจจะต้องส่งไปถึงผู้อำนวยการให้ทำการอนุมัติ เมื่ออนุมัติเรียบร้อยเอกสารส่งถึงฝ่ายบุคคล ฝ่ายบุคคลจึงจะนำมาแจ้งพนักงานอีกที ซึ่งหากมี workflow จะสามารถทำให้ขั้นตอนเหล่านี้สมบูรณ์ได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น จุดเด่นที่ Workflow สามารถช่วยทุกคนในองค์กรได้ การมี workflow คือการลดปัญหาระหว่างขั้นตอนออกไปให้ระบบงานสามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้นว่าตอนนี้อยู่ที่ขั้นตอนใดหรือมีปัญหาใดเกิดขึ้น ซึ่งการมี workflow จะทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องต่างทำงานง่ายขึ้น เรามาดูจุดเด่นหลัก 3 ข้อให้ชัดเจนกันดีกว่า ส่งคำขอและอนุมัติจากที่ใดก็ได้ผ่านทางคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน หากพนักงานต้องออกนอกสถานที่หรือมีเหตุให้ไม่สามารถแจ้งกับบริษัทได้โดยตรงสามารถทำการแจ้งผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่มีอยู่ได้ทันทีโดยผ่านระบบ hr […]

5 วิธีสร้างมนุษยสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน

วันนี้ JOBCAN ขอนำเสนอ เรื่องความสัมพันธ์ในที่ทำงานนั้นมีความสำคัญกับการทำงานเป็นอย่างมากเพราะความสัมพันธ์ที่ดีสามารถส่งผลต่อแรงจูงใจและแรงบันดาลใจในการทำงาน ดังนั้นการสร้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีตั้งแต่วันแรกของการเริ่มงานหรือจะเป็นการเริ่มสร้างมนุษย์สัมพันธ์กันตั้งแต่วันนี้ก็ตาม ยังไม่นับว่าสายเกินไป มาดูกันดีกว่าว่าจะสามารถสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานอย่างไรได้บ้าง ยอมรับในความแตกต่าง คนทุกคนล้วนมีความคิดและประสบการณ์ที่สั่งสมผ่านมาไม่เหมือนกัน จึงทำให้มีมุมมองต่อเรื่องราวต่างๆ ต่างกันออกไป ยิ่งกับที่ทำงานที่จะได้พบเจอผู้คนมากมาย ต่างวัยต่างที่มาทำให้เราจะได้เจอกับความแตกต่างมากขึ้นไปอีก ซึ่งการจะสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดีได้นั้นเราต้องยอมรับในความแตกต่างเหล่านั้นให้ได้เสียก่อน ไม่ไปตัดสินคนอื่นโดยใช้ความคิดส่วนตัวของตัวเองเป็นหลักเท่านั้น มองโลกในแง่ดี การสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดีนั้นเราควรเริ่มด้วยการมองโลกในแง่ดี มองและใส่ใจในด้านที่ดีของเพื่อนร่วมงาน เพื่อให้เราทำงานได้อย่างมีความสุข คนที่มีความสุขและมองโลกในแง่ดีได้นั้นมักจะเป็นคนที่ทุกคนอยากจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีด้วยอยู่เสมอ  ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้อื่น ในการทำงานย่อมมีพาร์ทที่ต้องทำงานร่วมกับผู้อื่นและเพื่อการสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดีนั้นเราควรให้ความช่วยเหลือแก่คนอื่นด้วย และหากถึงเวลาที่เรามีปัญหาก็ลองขอความช่วยเหลือหรือปรึกษากับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ดู วิธีนี้อาจทำให้เราได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในที่ทำงานก็เป็นได้ สื่อสารกับผู้อื่นให้เป็น การสื่อสารเป็นส่วนที่สำคัญอย่างมากในสังคมการทำงาน ดังนั้นในการสร้างมนุษยสัมพันธ์ในทุกที่รวมถึงที่ทำงานนั้นเราต้องรู้จักการสื่อสารที่ดี ซึ่งอาจประยุกต์ใช้โดยหลักการ 7c ตรงประเด็น ไม่ทำร้ายจิตใจผู้อื่นและไม่นำอารมณ์ส่วนตัวมาใช้ในการสื่อสาร หากเราสามารถสื่อสารได้เป็นอย่างดีนอกจากจะส่งผลต่อการทำงานแล้วเรายังจะได้เพื่อนที่ดีกลับมาด้วย มีความจริงใจให้แก่ตนเองและผู้อื่น ในการสร้างมนุษยสัมพันธ์กับผู้อื่นเราต้องมีความจริงใจ เพราะความจริงใจเป็นสิ่งที่สามารถสัมผัสได้และไม่มีใครที่อยากได้ความไม่จริงใจ เมื่อเรามีความจริงใจทั้งในเรื่องการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับงานหรือเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปย่อมเป็นการสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานได้ สรุป การมีมนุษยสัมพันธ์ในที่ทำงานสามารถเป็นตัวช่วยสู่ความสำเร็จในการทำงานได้เลย ทั้งยังสามารถสร้างความพึงพอใจในการทำงานให้เราทำงานอย่างมีความสุขและยังอาจได้มิตรภาพที่มากกว่าการเป็นเพื่อนร่วมงานด้วยก็ได้ Jobcan Attendance ระบบเข้าออกงานพนักงาน ตอกบัตรออนไลน์สนใจระบบ Jobcan ติดต่อ 02-107-1867LINE@ : @jobcan_thFacebook : Jobcan Thailandลงทะเบียนสอบถามข้อมูล : https://bit.ly/3P0dVmg

สวัสดิการพนักงานในฝันที่ hr ควรรู้

ในยุคสมัยที่คนมีความสามารถเป็นผู้มีอำนาจอย่างนี้บริษัทจะต้องทำการสำรวจถึงสวัสดิการพนักงานที่จะสามารถดึงดูดให้คนเก่งเข้ามาให้ความสนใจและเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทให้ได้นานที่สุดเท่านี้จะทำได้ ซึ่งหากสวัสดิการพนักงานน่าสนใจแล้วพนักงานย่อมทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและอยู่ด้วยกันไปอีกนาน  วันนี้ JOBCAN ได้รวบรวมเอาสวัสดิการในฝันที่เหล่าพนักงานชื่นชอบมาให้แล้ว ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง สวัสดิการพนักงานที่ 1 โบนัสและการปรับเงินเดือน แม้ว่าการให้เงินเดือนจะเป็นการให้สิ่งตอบแทนที่เหมาะสมและเป็นที่ต้องการอย่างมากแล้ว แต่หากมีการปรับขึ้นเงินเดือนตามผลงานและมีโบนัสเข้ามาสร้างแรงจูงใจให้พนักงานสามารถมีเงินก้อนเอาไว้ได้ย่อมสามารถทำให้พนักงานอยากสร้างผลงานที่ดีให้กับเราไปได้ยาวๆ สวัสดิการพนักงานที่ 2 เวลาการทำงานที่ยืดหยุ่น ในปัจจุบันการทำงานไม่สามารถกำหนดเวลาโดยใช้รูปแบบเดิมมาสร้างแรงจูงใจให้กับคนทำงานได้อีกต่อไป เพราะแต่ละคนมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ต่างกัน บางคนชอบการทำงานในเวลากลางคืนเพราะสงบและรวบรวมสมาธิได้มากกว่า บางคนก็จำเป็นต้องมีเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นบ้างเพื่อเติมเต็มทุกด้านให้ชีวิต หรือ Work-Life-Balance ดังนั้นพนักงานหลายคนมักมองหาบริษัทที่มีกำหนดเวลาการทำงานที่ยืดหยุ่นได้มาตอบโจทย์ชีวิต สวัสดิการพนักงานที่ 3 วันลาพักร้อนและลาพิเศษอื่นๆ ชีวิตจะมีแค่ด้านการทำงานอย่างเดียวนั้นเป็นไปไม่ได้ สวัสดิการพนักงานอย่างหนึ่งที่พนักงานชื่นชอบและต้องการเป็นอย่างมากคือวันลาพักร้อนและวันลาอื่นๆ ซึ่งหากมีความสมเหตุสมผลและเข้ากับการใช้ชีวิตที่เขาต้องการแล้วทำไมจะไม่เลือกทำงานที่นี่ล่ะ สวัสดิการพนักงานที่ 4 วันลาหยุดตามกฎหมาย นับเป็นสวัสดิการพนักงานขั้นพื้นฐานที่มีความจำเป็นต่อชีวิตเลยทีเดียว เช่นวันลาป่วย เพราะตลอดเวลาการทำงานนั้นน้อยมากที่จะไม่มีการป่วยเกิดขึ้น หรือสิทธิการลาคลอด ซึ่งบางบริษัทอาจมีการคิดวันหยุดพิเศษเกี่ยวกับการลาคลอดเช่นการลาคลอดสำหรับผู้ชาย ก็สามารถใช้เป็นแรงจูงใจสำหรับบุคคลที่มีความสามารถและกำลังสร้างครอบครัวได้ สวัสดิการพนักงานที่ 5 งานเลี้ยงสรรค์และท่องเที่ยวประจำปี นี่นับเป็นสวัสดิการพนักงานที่สร้างขึ้นเพื่อให้บริษัทสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงเพราะงานสังสรรค์และท่องเที่ยวประจำปีนี้สามารถกระชับความสัมพันธ์ของเหล่าพนักงานให้แน่นแฟ้นทำให้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้นได้และยังเป็นเหตุผลหนึ่งที่ช่วยให้พนักงานไม่ลาออกได้ด้วย สวัสดิการพนักงานที่ 6 ประกันสุขภาพและประกันสังคม ประกันสุขภาพและประกันสังคมนี้เป็นสวัสดิการพนักงานที่ช่วยสนับสนุนความมั่นคงในชีวิตของพนักงานได้เป็นอย่างดีเพราะเมื่อมีเหตุเจ็บป่วยหรือถึงเวลาตรวจสุขภาพ ทำฟันก็สามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้ ไม่ต้องรับผิดชอบเต็มจำนวน ที่สำคัญคือยังมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ หลังจากการลาออกอีกด้วย สวัสดิการพนักงานที่ 7 ค่าล่วงเวลาหรือ OT การทำงานล่วงเวลาอาจจะไม่ใช่สิ่งที่พนักงานหลายคนคาดหวังนักแต่หากต้องมีการทำงานล่วงเวลา ทางบริษัทก็ควรมีค่าตอบแทน OT […]

ออกไปพบลูกค้า หรือ จะ WFH ก็ clock in ผ่านมือถือได้

ในการทำธุรกิจย่อมต้องมีการออกไปพบปะพูดคุยกับลูกค้ากันบ้าง ถือเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว โดยคนที่รับหน้าที่ออกไปนั้นมักจะเผชิญปัญหาการตรวจสอบเวลาทำงานอยู่เสมอเพราะไม่สามารถเก็บหลักฐานการทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือ ยิ่งในปัจจุบันยังมีความจำเป็นต้อง Work from home อยู่บ่อยครั้ง หลายบริษัทจึงอยากจะจัดการเรื่องนี้กลายเป็นการสร้างความไม่พอใจให้กับหลายฝ่ายไปแทน ดังนั้นจะดีกว่าไหม หากพนักงานสามารถบันทึกการเข้า-ออกงาน หรือ clock in ได้แม้อยู่นอกบริษัท การ clock in นอกสถานที่ที่พนักงานต้องการ การ clock in นอกสถานที่นั้นต้องสามารถบันทึกและเก็บรายละเอียดได้ชัดเจนมากกว่าตอนตอกบัตรที่บริษัทและต้องมีความน่าเชื่อถือมากพอ ดังนั้น สิ่งที่พนักงานต้องการในการ clock in มีอยู่ 3 ประการหลักๆ ดังนี้ สามารถ clock-in ผ่านเครื่องมือสื่อสารที่พกพาได้สะดวก การเดินทางออกไปข้างนอกจะเป็นต้องมีความคล่องตัวสูง การพกพาเครื่องมือเฉพาะอาจจะไม่สะดวกและที่สำคัญวิธี clock-in จะต้องไม่ยุ่งยากจนกินเวลามากเกินไปด้วย ทั้งยังควรเป็นอุปกรณ์ที่คนทำงานทุกคนมีอยู่แล้วเพื่อลดต้นทุนในส่วนนี้สำหรับการรับมือการ Work from home ของพนักงานทุกคน ดังนั้นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์จึงเป็นเครื่องมือที่สะดวกสบายมากทีเดียว สามารถบันทึก Location ขณะ clock-in ได้ นอกจากการบันทึกว่ามีการ clock-in กี่โมงแล้วยังต้องมีการบันทึกโลเคชั่นหรือสถานที่การทำงานเพื่อให้มั่นใจว่าสถานที่ที่อยู่ถูกต้องตามการนัดหมายตามหน้าที่ เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบในภายหลัง สามารถลงหมายเหตุหรือเหตุผลอื่นเพิ่มเติมได้ […]

เริ่มต้นปีใหม่แห่งการทํางานอย่างไรให้มีความสุข ตลอดปี

ปีใหม่อีกครั้งแล้ว ใครที่กำลังเริ่มต้นทำงานหรือแม้จะทำงานมาได้สักพักก็อาจจะมีคำถามได้ว่า ‘ทำงานอย่างไรให้มีความสุข’ เกิดขึ้นได้เพราะชีวิตการทำงานคือการเริ่มต้นใหม่ของอีกบทหนึ่งของชีวิต บางครั้งหลายคนจึงไม่อาจหาคำตอบได้ทันที วันนี้ JOBCAN จึงอยากจะนำเสนอวิธีการทำงานอย่างไรให้มีความสุข รับรองว่าไม่ยากแน่นอน ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง จบปีเก่าด้วยการทบทวนสิ่งที่ผ่านมา สิ่งที่เราได้ผ่านมานับเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าที่หากปล่อยให้ผ่านไปเฉยๆ ก็น่าเสียดายมากทีเดียว ดังนั้นเราลองหยิบมาทบทวนดูว่าปีที่ผ่านมานี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เราได้เรียนรู้เรื่องอะไรไปแล้วบ้างและที่สำคัญคือเราทำได้ดีมากแค่ไหนกับเราพลาดตรงไหนบ้าง โดยลองนึกถึงเหตุการณ์ใหญ่ที่สำคัญสำหรับเราเอามาตั้งคำถามเสมือนเราในตอนนี้ไม่ใช่เราในตอนนั้น เพื่อให้เห็นถึงการกระทำและผลของเหตุการณ์ เมื่อเรียนรู้เรียบร้อยแล้วก็ปล่อยวาง สิ่งที่ผ่านไปแล้วเราทำอะไรไม่ได้นอกจากเรียนรู้ ชื่นชมตัวเองหรือป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก จากนั้นก็พาตัวเองไปเริ่มต้นปีใหม่กันอย่างมีความสุข กำหนดเป้าหมายและวางแผนการทำงาน หากเราทำงานโดยไม่มีเป้าหมายก็เหมือนการทำงานอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ไม่รู้ว่าจุดสุดท้ายของความสำเร็จอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นเราจะเริ่มการทำงานอย่างไรให้มีความสุขกัน ก็ต้องวางเป้าหมายบอกความสำเร็จที่เรากำหนดเอาไว้ออกมาให้ชัดเจน ในการวางแผนด้านการทำงานนี้เราควรมีภาพสุดท้ายของความสำเร็จของเราก่อนเพื่อกำหนดว่าปีนี้เราจะเดินไปถึงขั้นใด แบบนี้เวลาทำงานเราจะรู้สึกได้ถึงความสุขและความสำเร็จมากขึ้น ท้าทายตัวเองและให้โอกาสตัวเองได้ลองสิ่งใหม่ ช่วงเวลา 12 เดือนนี้เราควรวางแผนให้ตัวเองได้มีการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ หรืออาจจะเป็นงานอดิเรกใหม่ที่ช่วยให้เราได้ท้าทายตัวเองและสนุกกับการใช้ชีวิตมากขึ้น โดยวิธีนี้สามารถปลุกความกล้าที่จะเรียนรู้ของเราได้ทั้งยังสามารถเพิ่มซอฟต์สกิลที่ช่วยให้เราทำงานได้ดีขึ้นด้วย การเรียนรู้สิ่งใหม่ที่ JOBCAN อยากแนะนำคือการเรียนภาษาใหม่ การเพิ่มทักษะทางดิจิทัล หรือการเรียนกีฬารูปแบบใหม่ที่เราไม่เคยเรียนมาก่อน แล้วคุณจะได้รู้ว่าชีวิตมีอะไรสนุกๆ อีกเยอะที่เรายังไม่ได้ลอง จัดโต๊ะทำงานใหม่ให้เริ่มต้นปีด้วยการทำงานอย่างมีความสุข การจัดโต๊ะทำงานหรือพื้นที่ทำงานของเราให้เป็นระเบียบเป็นการจัดการที่สามารถจัดระเบียบได้ทั้งภายนอกและภายใน สำหรับภายนอกคือพื้นที่บริเวณที่ดูสะอาดตา น่าเข้าไปนั่งทำงานกับภายในซึ่งหมายความถึงจิตใจของเราเองก็จะได้รับการจัดระเบียบความคิดไปด้วย ทำให้การทำงานมีระบบและชัดเจนมากขึ้น ดังนั้นการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการจัดโต๊ะทำงานจึงนับได้ว่าเป็นการจัดเพื่อให้เราสามารถทำงานได้อย่างเป็นระเบียบและเพลิดเพลินได้มากขึ้นไปด้วยนั่นเอง นอกเหนือจากการเปลี่ยนสภาพโต๊ะทำงานด้วยตัวเองแล้ว สภาพแวดล้อมในที่ทำงานก็มีส่วนด้วยเช่นกัน เมื่อเราอยากให้เรามีความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้นกับเพื่อนร่วมงาน เราก็ควรสร้างสัมพันธไมตรีก่อนและรวมถึงมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น หรือ Empathy Culture กำหนดรางวัลความสำเร็จประจำปี […]