สำหรับเจ้าของธุรกิจหรือนายจ้างเรื่องหนึ่งที่ต้องทำเป็นประจำทุกเดือนก็คือการคิดเงินเดือนให้กับลูกจ้างหรือพนักงานโดยเฉพาะในช่วงที่สถานการณ์แปรปรวนจากโรคระบาดแบบนี้ หลายบริษัทให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน (Work form Home) การคิดเงินเดือนจึงนับว่าแทบจะต้องสร้างกติกากันใหม่เลยทีเดียว JOBCAN จึงขอนำเสนอรายละเอียดการคิดเงินเดือนว่า ในหนึ่งเดือนนี้เราต้องเอาอะไรมาคำนวณกันบ้าง

การคิดเงินเดือนตามเวลาทำงาน

ลูกจ้างที่รับเงินตามเวลาการเข้าทำงานมีหลายรูปแบบโดยส่วนใหญ่จะคิดเป็นรายวันและรายเดือน แต่เมื่อมีรายการเพิ่มเติมเข้ามาจะคำนวณเป็นรายชั่วโมงทันที สำหรับรายเดือนนั้นจะเป็นการนำรายได้ต่อเดือนหาร 30 ซึ่งเป็นจำนวนวันในหนึ่งเดือน ได้เป็นค่าจ้างรายวันจากนั้นก็นำค่าจ้างรายวันที่ได้มาหารชั่วโมงการทำงานต่อวัน ออกมาเป็นค่าจ้างรายชั่วโมงที่จะนำมาคำนวณต่อไป

การเพิ่มหรือลดค่าจ้าง เงินเดือนส่วนใหญ่จะมีเหตุผลอยู่ 2 ข้อหลักที่เรามักพบได้บ่อยคือ

OT หรือ การทำงานล่วงเวลา

การทำงานล่วงเวลาหรือโอทีนั้นเป็นหนึ่งในวิธีที่ทำให้การคิดเงินเดือนมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นเพราะการทำงานล่วงเวลาในแต่ละเดือนนั้นจะไม่เท่ากัน ดังนั้นการคิดเงินเพิ่มเติมส่วนนี้จึงเป็นส่วนที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนทั้งสำหรับนายจ้างและลูกจ้าง โดยทางกระทรวงแรงงานได้กำหนดการคิดเงินเดือนสำหรับส่วนการทำงานล่วงเวลาไว้ดังนี้

ค่าล่วงเวลาในวันทำงานจะอยู่ที่ 1.5 เท่าของเงินเดือน วิธีคำนวณคือ (เงินรายรับต่อชั่วโมง x 1.5) x จำนวนชั่วโมงที่ทำล่วงเวลา 

ค่าล่วงเวลาในวันหยุดจะอยู่ที่ 3 เท่าของเงินเดือน วิธีคำนวณคือ (เงินรายรับต่อชั่วโมง x3) x จำนวนชั่วโมงที่ทำล่วงเวลา

การลา

กระทรวงแรงงานได้กำหนดให้พนักงานหรือลูกจ้างต้องมีวันหยุดพักร้อนอย่างน้อย 6 วันต่อปีไม่รวมวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดราชการ ประเพณีต่างๆ ซึ่งอาจมีการตกลงมากกว่านั้นแล้วแต่นายจ้างจะตกลงกับลูกจ้าง แต่ในกรณีที่อยู่นอกเหนือข้อตกลงเช่น การขาดงานหรือการลาแบบไม่รับเงินจะต้องมีการหักรายรับของลูกจ้างออกตามเวลาที่ลูกจ้างขาดงาน หากขาดไป 2 ชั่วโมงก็ต้องหักรายรับออก 2 ชั่วโมงนั่นเอง

การคิดเงินเดือนพร้อมหักภาษี

หลังจากการคิดเงินเดือนตามการทำงานจริงแล้วก็มาถึงรายการหักภาษีซึ่งนายจ้างหรือบริษัทจะหักภาษีและประกันสังคมออกไว้เลย รายรับที่ลูกจ้างหรือพนักงานได้รับส่วนใหญ่จึงน้อยเงินเดือนที่ตกลงกันไว้ การคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายจะคิดดังนี้

เงินเดือนทั้งปี – ค่าใช้จ่าย(100,000) – ค่าลดหย่อนต่างๆ – ค่าเบี้ยประกันสังคม(9,000)= เงินได้สุทธิ

จากนั้นนำเงินได้สุทธิมาตรวจสอบว่าอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของเราอยู่ที่กี่เปอร์เซ็นต์ ก็นำมาคูณเพื่อหาจำนวนภาษีที่ต้องจ่ายต่อปีจากนั้นหารด้วย 12 เดือน หากจำนวนที่ได้มีเศษขึ้นมามากกว่าสองหน่วยเช่น 0.466666 แบบนี้จะไม่มีการปัดเศษขึ้น แต่จะจ่ายเป็น 0.46 เลยจะได้ภาษีต่อเดือนที่ต้องหักออกจ่ายนั่น ซึ่งในเดือนธันวาคมจะมีการคำนวณคิดภาษีใหม่ เป็นการนำเอาภาษีต่อปีมาลบกับภาษีที่จ่ายออกไปตลอด 11 เดือน จำนวนที่เหลือคือภาษีที่ต้องจ่ายในเดือนธันวาคม

หากลูกจ้างหรือพนักงานไม่ได้เข้าทำงานตั้งแต่ต้นปีให้ใช้จำนวนเดือนที่ลูกจ้างทำงานมาคำนวณหาภาษีที่ต้องจ่ายต่อไปเช่น ทำงาน 6 เดือน ก็นำเงินเดือน 6 เดือนมาคำนวนหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนต่อไป เมื่อถึงเดือนธันวาคมก็ใช้วิธีนำภาษีที่ต้องเสียลบภาษีที่จ่ายไปแล้ว มาคำนวณเหมือนเดิม

การคิดเงินเดือนพร้อมรายการลดหย่อนปี 2564

ในการคิดเงินเดือนเพื่อหักภาษีออกนั้นยังมีตัวช่วยที่ทำให้ไม่ต้องจ่ายภาษีในจำนวนมากอีกอย่างหนึ่งก็คือรายการลดหย่อนภาษีนั่นเอง โดยเราสามารถสำรวจดูรายการลดหย่อนภาษีปี 2564 เพื่อคำนวณว่าสามารถลดหย่อนหรือได้คืนภาษีหรือไม่ได้จากรายการดังนี้

• ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัวและครอบครัว
• ค่าลดหย่อนกลุ่มประกัน เงินออมและการลงทุน
• ค่าลดหย่อนอสังหาริมทรัพย์
• ค่าลดหย่อนกลุ่มเงินบริจาค
• ค่าลดหย่อนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ

จะเห็นได้ว่าการคิดเงินเดือนนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนแต่มีหลักการในการคิดค่อนข้างแน่นอน ทำให้หลายบริษัทเลือกใช้โปรแกรมในการคิดเงินเดือน ซึ่งช่วยคิดการหักภาษีและค่าลดหย่อนต่างๆ ได้ ช่วยทุ่นเวลาในการคำนวณได้มากมายทั้งยังมีความแม่นยำสูงอีกด้วยอย่าง JOBCAN Payroll ที่ช่วยคิดเงินเดือนไม่ว่าจะเป็นโอที การลา เป็นแบบรายวันหรือรายชั่วโมงก็ใช้ได้ และยังสามารถคำนวณภาษีตั้งแต่วันเริ่มทำงานให้ด้วย นับเป็นตัวช่วยที่นายจ้างหรือบริษัทจะขาดไม่ได้เลยทีเดียว

จะเห็นได้ว่าการคิดเงินเดือนนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนแต่มีหลักการในการคิดค่อนข้างแน่นอน ทำให้หลายบริษัทเลือกใช้โปรแกรมในการคิดเงินเดือน ซึ่งช่วยคิดการหักภาษีและค่าลดหย่อนต่างๆ ได้ ช่วยทุ่นเวลาในการคำนวณได้มากมายทั้งยังมีความแม่นยำสูงอีกด้วยอย่าง JOBCAN Payroll ที่ช่วยคิดเงินเดือนไม่ว่าจะเป็นโอที การลา เป็นแบบรายวันหรือรายชั่วโมงก็ใช้ได้ และยังสามารถคำนวณภาษีตั้งแต่วันเริ่มทำงานให้ด้วย นับเป็นตัวช่วยที่นายจ้างหรือบริษัทจะขาดไม่ได้เลยทีเดียว