การจะทำให้งานให้สำเร็จมีสองวิธี คือ การทำงานแบบคนเดียวและการทำงานเป็นทีม ถึงแม้จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในองค์กรต่างๆ เราล้วนต้องทำงานแบบเป็นทีมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในวันนี้ JOBCAN ขอนำเสนอ 7 เทคนิคที่ช่วยพัฒนาการทำงานเป็นทีมกันค่ะ การทำงานเป็นทีม (Teamwork) คืออะไร การทำงานเป็นทีมก็คือการร่วมมือกันของคนหลายๆ คนเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยมีวัตถุประสงค์และเป้าหมายเดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่ทุกคนจะต้องประสานงานกัน ทีมเวิร์คยังหมายถึงการที่สมาชิกในทีมต่างใช้ความสามารถของตัวเอง ในการออกความคิดเห็นและพัฒนาผลลัพธ์ของทีมอีกด้วย ทีมเวิร์คที่ประสบความสำเร็จจะมีคุณสมบัติดังนี้ สมาชิกในทีมควรมีจุดมุ่งหมายร่วมกัน มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีทักษะมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีการสื่อสารแบบเปิดและมอบพลังบวกให้แก่กัน มีการมอบหมายงานที่เหมาะสม ทำตามกฏของทีม รับฟังหัวหน้าทีมและรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง ทำไมทีมเวิร์ค (Teamwork) ที่ดีจึงสำคัญ การมีทีมเวิร์คที่ดีจะส่งผลให้ทำตามเป้าหมายได้สำเร็จและเกิดผลลัพธ์ที่ดี โดยปกติแล้ว คนในทีมล้วนอยากทำหน้าที่ที่ตนได้รับมอบหมายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากไม่อยากให้เกิดข้อผิดพลาดในงาน นอกจากนี้ การทำงานเป็นทีมควรแบ่งหน้าที่ ที่เหมาะสมให้กับแต่ละคน ทำให้เกิดการแบ่งเบาซึ่งกันและกัน นอกจากนี้งานจะเสร็จได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย “เราเป็นหยดน้ำเพียงหนึ่งหยดเมื่ออยู่คนเดียว แต่จะเป็นมหาสมุทรถ้าเรารวมตัวกัน” — Ryunosuke Satoro การทำงานเป็นทีมยังช่วยให้เรามีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากบุคลากรที่มีความสามารถและประสบการณ์เยอะกว่า ซึ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับพนักงานมาใหม่ ในขณะเดียวกัน พนักงานที่อยู่มานานก็สามารถแลกเปลี่ยนไอเดียใหม่ๆ กับคนใหม่ๆได้อีกด้วย การแลกเปลี่ยนและการพูดคุยระหว่างทำงานจะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ดีให้กับคนในทีมและทำให้การทำงานมีบรรยากาศที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก เทคนิคการพัฒนาการทำงานเป็นทีม 7 ข้อ […]
การจัดการบริหารเวลาเป็นเรื่องที่หลายบริษัทให้ความสำคัญเพราะเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารทรัพยากรด้านอื่นๆ อย่างเช่นการประเมินผลการทำงาน การจ่ายเงินเดือน เป็นต้น ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญกับเวลาการทำงานของพนักงาน เพื่อตรวจสอบและพัฒนาบริหารทรัพยากรมนุษย์ในบริษัทต่อไปนั่นเอง นอกจากนี้ด้วยรูปแบบการทำงานที่ต่างไปจากเดิม ทำให้การตอกบัตรหรือการบันทึกเวลาการทำงานไม่ว่าจะเป็นการพักเบรค ลาพักร้อน ทำงานล่วงเวลาก็ต้องการการบันทึกเวลาที่ชัดเจนแม่นยำมากขึ้นแต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีความยืดหยุ่นและใช้งานได้ง่ายขึ้น จึงต้องยกเอาระบบไปไว้บน Cloud ให้ทุกคนสามารถเชื่อมต่อได้ง่าย เรามาดูจุดเด่นของการตอกบัตรบน Cloud นี้กัน จุดเด่นของการใช้ระบบการบันทึกเวลาเข้างานหรือตอกบัตรบน Cloud การทำงานในปัจจุบันเน้นความยืดหยุ่นสำหรับทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร ฝ่าย HR หรือพนักงานในองค์กรต่างก็ต้องสามารถเข้าถึงการตอกบัตรได้อย่างสะดวกรวดเร็ว แต่เพราะการทำงานไม่ได้อยู่ในสถานที่เดียวอีกต่อไปแล้ว การตอกบัตรบันทึกเวลาทำงานบน Cloud โดยมีซอฟต์แวร์รองรับจึงเป็นวิธีการที่ทำให้งานสะดวกขึ้นมาก นอกจากนี้ยังมีข้อดีอื่นๆ เช่น สามารถรับรู้และจัดการข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ การตอกบัตรหรือบันทึกเวลาเข้างานบน Cloud จะช่วยให้สามารถตรวจสอบเวลาที่ลงบันทึกหรือตอกบัตรได้ทันทีที่มีการลงบันทึก ไม่ว่าผู้บันทึกจะไปทำงานที่ใดก้ตาม อาจเป็นไซส์ก่อสร้าง หรือการเจอกับลูกค้าในที่อื่นๆ ก็สามารถจัดการและตรวจสอบข้อมูลได้ทันที หากมีความผิดปกติที่เกี่ยวกับเวลาเข้างานก็สามารถตรวจสอบและแก้ไขได้ทันที สามารถนำข้อมูลเวลาการทำงานมาใช้ประโยชน์ได้จริง ข้อมูลทุกอย่างที่มีการบันทึกด้วยระบบบันทึกเวลาการทำงานบน Cloud จะมีการเก็บข้อมูลและสามารถสรุปออกมาเพื่อใช้งานได้อย่างง่ายดายในรูปแบบที่ต้องการไม่ว่าจะเป็นแบบกราฟ จัดเรียงเป็นสถิติหรือตารางก็ได้ทั้งนั้น ทำให้สามารถนำมาต่อยอดพัฒนาองค์กรได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลาเรียบเรียงข้อมูลใหม่ สามารถลดต้นทุนการทำงานที่เกี่ยวกับการบันทึกเวลางานได้ ในองค์กรขนาดเล็กมักมีพนักงานอยู่ไม่ต่ำกว่าสิบคนขึ้นไปหรือหากเป็นองค์กรขนาดใหญ่เองก็จะมีพนักงานมากขึ้น การจัดการคำนวณเวลาเข้า-ออกงานด้วยรูปแบบเก่านั้นเรียกว่าต้องใช้ทั้งเวลาและกำลังคนมากมายทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องเสียค่าทรัพยากรอย่างกระดาษหรือเครื่องมือเพิ่มเติมอื่นๆอีกด้วย ซึ่งกลายเป็นต้นทุนที่ต้องเสียไปเกินกว่าความจำเป็น ขณะที่ระบบตอกบัตรบน Cloud นั้นจะช่วยลดการใช้ทรัพยากรทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเวลา กระดาษ หรือคน สามารถลดความผิดพลาดของมนุษย์ที่อาจเกิดขึ้นได้ มนุษย์เราสามารถสร้างความผิดพลาดได้เสมอไม่ว่าจะป้องกันมากเท่าใดก็ตามแต่หากเป็นระบบอัตโนมัติแล้วความผิดพลาดย่อมน้อยกว่าและที่สำคัญคือทุกการผิดพลาดที่เกิดขึ้นสามารถตรวจสอบได้ว่าเกิดขึ้นจากอะไร […]
วัฒนธรรมองค์กรคือ การสร้างทัศนคติ ค่านิยมและความเชื่อร่วมกันในองค์กรเพื่อให้องค์กรสร้างเป้าหมายหลักที่เป็นภาพเดียวกันขึ้นมาได้ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อวัฒนธรรมขององค์กรสามารถกำหนดวิถีการทำงานและสร้างประสิทธิภาพการทำงานให้กับองค์กรได้ด้วย เรามาดูกันให้ชัดๆ ดีกว่าว่าประโยชน์หลักที่วัฒนธรรมองค์กรสามารถทำได้มีอะไรบ้าง วัฒนธรรมองค์กรที่ดีมีประโยชน์อย่างไร การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและนับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะจะต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคนในองค์กรสร้างขึ้นมาด้วย แต่ถึงแม้จะเป็นเรื่องยากผลที่ได้กลับคุ้มค่าอย่างมากทีเดียว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในองค์กร การมีวัฒนธรรมองค์กรที่ดีจะต้องมีการทำงานประสานกันและยังมีวิสัยทัศน์หรือเป้าหมายที่ชัดเจนร่วมกัน ทั้งยังมองเห็นและเข้าใจคุณค่าของการทำงานส่งผลให้งานออกมามีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้การมีวัฒนธรรมองค์กรที่ดีช่วยสร้างรูปแบบการทำงานที่ช่วยให้พนักงานมีความสุขสามารถแสดงศักยภาพของตนออกมาได้อย่างเต็มที่มากขึ้นด้วย ช่วยดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถเข้ามาสนใจองค์กร วัฒนธรรมองค์กรสามารถแสดงถึงรูปแบบการทำงานและความเป็นอยู่ภายในองค์กรได้หากองค์กรมีวัฒนธรรมองค์กรที่ดีแล้วจะทำให้คนที่มีศักยภาพและต้องการทำงานด้วยวิสัยทัศน์หรือเป้าหมายเดียวกันเข้ามาสนใจ ดังนั้นยิ่งวัฒนธรรมองค์กรมีความแข็งแรงมากเท่าไหร่ การได้พนักงานที่ตรงตามความต้องการและมีความสามารถก็มีโอกาสมากขึ้นเท่านั้น ช่วยให้พนักงานอยู่กับองค์กรนานขึ้น เมื่อองค์กรสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีได้แล้วจะช่วยให้พนักงานสามารถตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้นว่าองค์กรนี้เหมาะกับการทำงานของตนหรือไม่ ขณะเดียวกันก็สามารถคัดเลือกเอาพนักงานที่มีสไตล์การทำงานตรงกับวัฒนธรรมองค์กรได้ด้วย ส่งผลให้พนักงานอยู่กับองค์กรได้นานมากขึ้น วิธีการวางแผนสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี ได้รู้ประโยชน์ของการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีกันแล้ว แต่ว่าเราจะสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีต้องคำนึงถึงเรื่องใดบ้าง ไปดูกัน สร้างเป้าหมายกำหนดรูปแบบวัฒนธรรมองค์กรที่อยากให้เป็น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามเราควรมีการกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนเช่นเดียวกับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เราต้องมีการกำหนดทิศทางและเป้าหมายให้ชัดเจนที่สุดเพื่อพาองค์กรไปในทางเดียวกันเพราะการสร้างวัฒนธรรมองค์กรเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาจึงต้องชัดเจนที่สุด วางกลยุทธ์โดยทั้งองค์กรต้องมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน การสร้างวัฒนธรรมองค์กรมีองค์ประกอบอยู่หลายด้านทีเดียวจึงต้องมีการวางกลยุทธ์ให้สอดคล้องกันและขณะเดียวกันก็ต้องมีความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการสร้างวิสัยทัศน์และเป้าหมายของวัฒนธรรมองค์กรร่วมกัน ไม่อย่างนั้นวัฒนธรรมองค์กรที่ออกมาอาจไม่ดีพอที่จะไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ใช้พื้นที่โซเชียลมีเดียให้เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ในปัจจุบัน Work from home มีเพิ่มมากขึ้นทำให้การพบปะพูดคุยหรือการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างพนักงานลดลง ดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนสร้างวัฒนธรรมองค์กรโดยให้ตัวช่วยอย่างโซเชียลมีเดียเข้ามาเป็นสื่อกลางในการสื่อสารด้วย สร้างแบบอย่างที่ดีเพื่อให้เป็นค่านิยม การมีแบบอย่างหรือบุคคลต้นแบบจะทำให้ภาพเป้าหมายของการสร้างวัฒนธรรมองค์กรชัดเจนมากขึ้น ทั้งยังเป็นตัวอย่างที่นับว่ามีอิทธิพลอย่างมากทีเดียวและยังสามารถช่วยให้วัฒนธรรมองค์กรแข็งแกร่งมากขึ้นด้วย วัฒนธรรมองค์กรต้องเหมาะกับยุคสมัยและสไตล์การทำงานของคนในองค์กร รูปแบบและความหมายของการทำงานในอดีตต่างจากปัจจุบันค่อนข้างมากแล้ว ทำให้วัฒนธรรมองค์กรในรูปแบบเดิมอาจไม่ดึงดูดหรือสร้างผลลัพธ์ที่ดีได้อย่างที่ต้องการ จึงควรมีการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรให้ยืดหยุ่นเข้ากับยุคสมัยอยู่เสมอเช่น การกำหนดเวลาเข้างาน การตรวจวัดผลการทำงาน เป็นต้น การสร้างวัฒนธรรมองค์กรสามารถกำหนดและสร้างเองได้แต่หากอยากได้ประสิทธิภาพที่รวดเร็วมากขึ้นสามารถจ้างองค์กรข้างนอกมาช่วยพัฒนาก็ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามเรื่องวัฒนธรรมองค์กรก็ยังเป็นเรื่องของเวลาที่ต้องบ่มเพาะไปพร้อมกับความร่วมมือจากทุกฝ่ายในองค์กรด้วย Jobcan Attendance ระบบเข้าออกงานพนักงาน ตอกบัตรออนไลน์สนใจระบบ […]