การจ้างบุคลากรเข้ามาในองค์กรนั้นเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องคิดพิจารณาให้รอบคอบเพราะนับเป็นการลงทุนอย่างหนึ่งโดยเฉพาะในเรื่องการ Offer เงินเดือนให้กับพนักงานใหม่ ที่จะต้องดูปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน เนื่องจากการจ้างพนักงานเป็นค่าใช้จ่ายระยะยาวและยังเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างเสี่ยงทั้งด้านเวลาและทรัพยากรต่างๆ เราจึงไม่สามารถตอบรับการเรียกเงินเดือนจากพนักงานใหม่ได้ในทันที แต่ต้องมีหลักในการพิจารณาเงินเดือนมาอ้างอิงเพื่อให้ต้นทุนในการ Offer เงินเดือนไม่สูงจนองค์กรอยู่ในความเสี่ยง วันนี้ JOBCAN จึงได้รวบรวมเอาหลักพิจารณาในการ Offer เงินเดือนให้แก่พนักงานใหม่หรือพนักงานเดิมเพื่อให้องค์กรมีแนวทางในการคิดเงินเดือนได้ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย Offer เงินเดือนจากโครงสร้างเงินเดือน นี่เป็นหลักพิจารณาเงินเดือนยอดนิยมสำหรับการ Offer เงินเดือนให้แก่พนักงานเลยทีเดียวเพราะแต่ละองค์กรจะมีการวางโครงสร้างเงินเดือนซึ่งออกแบบมาให้เหมาะสมกับองค์กรด้วยการออกแบบโครงสร้างเงินเดือนให้เหมาะสมกับตลาดแรงงานของแต่ละตำแหน่งงานและยังสอดคล้องกับรูปแบบขององค์กร จึงสามารถใช้เป็นหลักในการ Offer เงินเดือนให้แก่พนักงานได้เลย อีกหนึ่งเหตุผลของการ Offer เงินเดือนจากโครงสร้างเงินเดือนขององค์กรย่อมเป็นเพราะปัจจัยในการสร้างคน กว่าที่คนคนหนึ่งจะได้รับการพัฒนาบ่มเพาะมาถึงจุดที่ทำงานได้อย่างคล่องแคล่วจนเรียกว่าสร้างผลกำไรให้กับองค์กรได้นั้นต้องใช้เวลาและทรัพยากรขององค์กรมากมายทีเดียว ดังนั้น หลายครั้งที่มีการลาออกและต้องจ้างคนใหม่เขามาแทนกลายเป็นช่วงเวลาที่ขาดทุนขององค์กรไป การพิจารณา Offer เงินเดือนจากโครงสร้างเงินเดือนให้กับพนักงานเป็นวิธีที่หลายองค์กรเลือกใช้เพราะควบคุมงบประมาณได้ง่าย แต่หลายครั้งการพิจารณาจากโครงสร้างเงินเดือนก็ไม่สามารถใช้ได้เช่นกัน จึงมีการพิจารณา Offer เงินเดือนจากแนวทางอื่น Offer เงินเดือนจากกฎหมายแรงงาน เนื่องจากการปกป้องสิทธิประโยชน์ทั้งสำหรับลูกจ้างอย่างพนักงานและนายจ้างทำให้มีการออกกฎหมายแรงงานขึ้นมา และแน่นอนว่ายังรายละเอียดในส่วนของเงินเดือนค่าจ้างด้วยเช่นกัน ทำให้สามารถนำมาใช้อ้างอิงในการ Offer เงินเดือนได้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกับองค์กรที่ยังมีการคิดโครงสร้างเงินเดือนไม่ครอบคลุม บางส่วนงานสามารถนำไปใช้อ้างอิงก่อนได้ โดยในปัจจุบันค่าแรงขั้นต่ำในแต่ละจังหวัดจะมีอัตราที่ไม่เท่ากันโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ราว 320 บาทต่อวัน วิธีคิดเงินเดือนคือการนำเอาค่าแรงขั้นต่ำไปคูณกับจำนวนชั่วโมงที่ทำงาน หากมีการจ่ายเป็นรายเดือนก็ทำการคำนวณเป็นรายเดือน ออกมาเป็นค่าจ้างรายเดือนนั่นเอง วิธีการพิจารณา Offer เงินเดือนด้วยการอ้างอิงจากกฎหมายแรงงานนี้เป็นวิธีหนึ่งที่ง่ายที่สุดและสะดวกที่สุดเพราะอ้างอิงตามกฎหมายแรงงานแต่อาจทำให้พนักงานไม่รู้สึกดึงดูดในการมีส่วนร่วมกับองค์กรมากนัก โดยเฉพาะบุคลากรที่มีความสามารถ […]
สำหรับเจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการนั้น การจ่ายเงินเดือนเป็นเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นการจัดการบริหารบัญชีทั้งยังเป็นต้นทุนสำคัญที่จะทำให้บริษัทเดินหน้าต่อไปได้ แต่ในการจ่ายเงินเดือนให้แก่พนักงานนั้นจะมีเรื่องราวรายละเอียดที่ต้องศึกษาให้ดีเพื่อให้เป็นรายจ่ายและผลตอบแทนที่สมเหตุสมผลทั้งยังเป็นการป้องกันปัญหาต่างๆ ได้ด้วย ดังนั้นวันนี้ JOBCAN จึงนำเอาเรื่องต้องรู้สำหรับเจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการมือใหม่ที่ต้องรู้ก่อนการจ่ายเงินเดือนมานำเสนอ มีอะไรบ้างนั้น ไปดูกัน ศึกษากฎหมายแรงงานก่อนเริ่มวางแผนจ่ายเงินเดือน การศึกษากฏหมายแรงงานก่อนการเริ่มต้นแลกเปลี่ยนแรงงานและค่าตอบแทนเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากในการทำเงินเดือนเพราะจะทำให้ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจสามารถทราบได้ว่าสิ่งที่พนักงานควรได้รับและต้นทุนในการว่าจ้างนั้นมีอะไรบ้าง อย่างเช่น การคำนวณความคุ้มค่าในการว่าจ้าง หรือการจ้างงานเกินเวลาที่กำหนดจะต้องมีการจ่ายผลตอบแทนอย่างไรบ้าง ยิ่งไปกว่านั้นจะทำให้เจ้าของกิจการได้เรียนรู้ถึงสิทธิขั้นพื้นฐานที่พนักงานควรได้รับด้วย ทำให้สามารถปรับปรุงให้เข้ากับธุรกิจหรือองค์กรเพื่อการดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถเข้ามาทำงานได้โดยไม่เป็นการเอาเปรียบทั้งจากฝั่งนายจ้างหรือเจ้าของธุรกิจและลูกจ้างหรือพนักงานได้ ที่สำคัญการศึกษากฏหมายและทำตามที่กรอบกฏหมายกำหนดนี้ยังช่วยป้องกันความเสียหายหรือปัญหาเกี่ยวพนักงานได้อีกด้วย จัดเก็บข้อมูลประวัติของพนักงาน นี่นับเป็นเรื่องพื้นฐานอย่างหนึ่งในการจ้างงานและการทำเงินเดือนเพราะหากเข้ามาเป็นพนักงานแล้วย่อมมีผลประโยชน์บางอย่างร่วมกัน ทำให้การรับรู้ถึงข้อมูลตามกฏหมายที่ถูกต้องเช่นชื่อ นามสกุล อายุ ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน หรือเอกสารทางกฏหมายที่สามารถยืนยันตัวตนได้นับเป็นสิ่งสำคัญในการทำเงินเดือนจ่ายผลตอบแทนเป็นอย่างมาก เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นยังสามารถตามหาได้จากตัวตนที่ได้ให้ไว้ โดยการจัดเก็บประวัติของพนักงานควรทำตั้งแต่มีการว่าจ้างงานในวันแรกและมีการอัปเดทข้อมูลอยู่เสมอหากมีการเปลี่ยนแปลง ศึกษาการคำนวณเงินเดือนให้ครบถ้วน การทำเงินเดือนนี้ฟังดูอาจไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากแต่ความจริงแล้วนอกจากการกำหนดฐานเงินเดือนแล้วยังเกี่ยวข้องกับกฏหมายอีกหลายอย่าง เช่น ค่าใช้จ่ายในด้านสวัสดิการอย่างการนำส่งประกันสังคม เงินสมทบเป็นต้น หรือหากมีสวัสดิการอื่นๆ เช่นการออมเงิน ก็จะต้องทำการคำนวณเข้าไปด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีเรื่องของภาษีเงินได้ของพนักงานที่เจ้าของกิจการจะต้องนำส่งให้ตามอัตราที่กฏหมายกำหนดไว้ด้วยเช่นกัน ทำให้ต้องรอบรอบถี่ถ้วนอย่างมากเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดที่อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ จัดเก็บหลักฐานการจ่ายเงินเดือน การจ่ายเงินเดือนนับเป็นหนึ่งในต้นทุนของบริษัทที่ต้องลงบัญชีอย่างชัดเจนและยังเป็นภาษีของกิจการอีกด้วย ดังนั้น จึงต้องมีการจัดเก็บหลักฐานอย่างชัดเจนซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญทั้งสำหรับเจ้าของกิจการและพนักงานเอง ซึ่งหลักฐานเหล่านี้จะต้องเป็นหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจ่ายเมื่อใด อย่างไรและที่สำคัญผู้รับเป็นใคร ซึ่งจะมีผลต่อการดำเนินธุรกิจต่อไปด้วย หลักฐานการจ่ายเงินเดือนที่ผู้ประกอบการควรเก็บไว้เป็นหลักฐานจะมีตั้งแต่ สลิปเงินเดือนที่ต้องมอบให้กับพนักงานเป็นหลักฐานการคำนวณเงินเดือนในแต่ละเดือน และหลักฐานการโอนเงิน (ในกรณีโอนเงิน) และทะเบียนการจ่ายเงินเดือน หรือหลักฐานอื่นๆ ที่มีการรับรองทางกฏหมายแล้ว โดยเจ้าของกิจการควรเก็บเป็นหลักฐานไว้ตั้งแต่การทำเงินเดือนเมื่อเริ่มกิจการ สร้างข้อตกลงร่วมกันระหว่างพนักงานกับผู้ประกอบการให้ชัดเจน ในการทำเงินเดือนนี้เจ้าของกิจการควรมีการสร้างข้อตกลงที่ชัดเจนร่วมกับพนักงานด้วยเช่นกัน เพราะแม้ว่าจะมีกฏหมายแรงงานกำหนดมาให้แล้ว […]
หลายคนอาจมองว่างานของ HR นั้นเป็นเรื่องง่ายแต่ความจริงแล้วงานของ HR นั้นต้องมีความละเอียดรอบคอบอย่างมากเพราะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ไม่ว่าจะของบริษัทหรือของพนักงานก็ตามล้วนอยู่ในความรับผิดชอบของ HR ทั้งสิ้น ทำให้ทักษะ HR จำเป็นอย่างมากและกลายเป็นที่มองหาขององค์กรหรือบริษัทด้วยเช่นกัน ว่าแต่ทักษะ HR ใดบ้างที่ HR ต้องมีอย่างที่เรียกว่าขาดไม่ได้หากต้องแข่งขันและต่อสู้กับตลาดที่มีความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วในทุกวันนี้ เรามาดูกันดีกว่าว่า ทักษะ HR ที่ต้องมีนั้นมีอะไรกันบ้าง ทักษะการสื่อสารและการประสานงาน โจทย์ของการสื่อสารในทุกวันนี้เรียกว่ามีความท้าทายมากขึ้นทุกวัน แม้ว่าการสื่อสารจะดูสะดวกสบายและรวดเร็วจนดูคล้ายว่าจะง่ายขึ้นมากแต่ในความเป็นจริงแล้วกลับทำให้ปัญหาเกิดขึ้นได้ง่ายมากขึ้นตามไปด้วยเพราะรูปแบบของการสื่อสารบางอย่างทำให้การสื่อความถูกลดทอนและเปลี่ยนความหมายได้ง่าย เช่นการพิมพ์ประสานงานทางข้อความในแอปแชทต่างๆ ซึ่งไม่อาจได้ยินน้ำเสียง อารมณ์ของผู้สื่อสารเป็นต้น การสื่อสารและการประสานงานเพื่อรับรู้บรรยากาศการทำงานจึงเป็นทักษะ HR หนึ่งที่ HR จะต้องมีติดตัวเพื่อการสื่อสารที่ไม่เพียงจะรวดเร็วแต่ยังครบถ้วนทุกกระบวนความโดยไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดที่อาจส่งผลเสียต่อองค์กรได้ ทักษะการบริหาร ทักษะการบริหารเป็นหนึ่งในทักษะจำเป็นของ HR เพราะเป็นฝ่ายที่จะต้องบริหารทั้งบุคลากรในองค์กรและทรัพยากรภายในองค์กรให้คุ้มค่ามากที่สุดในทุกเวลา โดยเฉพาะในช่วงที่สถานการณ์เศรษฐกิจไม่แน่นอนเช่นนี้การบริหารต้นทุนให้คุ้มค่ามากที่สุดจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่กำลังท้าทายความสามารถและทักษะ HR อย่างยิ่ง นอกจากนี้ทักษะการบริหารของ HR ที่สำคัญยังมีเรื่องของการบริหารเวลาเพื่อให้สามารถสร้างผลงานได้อย่างรวดเร็ว และแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ยิ่งไปกว่านั้นการบริหารทรัพยากรบุคคลให้คุ้มค่าก็เป็นเรื่องท้าทายที่ต้องทำให้ยุติธรรมแต่ขณะเดียวกันก็คุ้มค่ากับบริษัทด้วยเช่นกัน เรียกว่าเป็นการบริหารเพื่อรักษาผลประโยชน์ของทั้งสองทางให้คุ้มค่าที่สุด นับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทักษะการวิเคราะห์และการตัดสินใจ การทำงานมักมีปัญหาและอุปสรรคเข้ามาอยู่เสมอทำให้มีเรื่องที่ต้องตัดสินใจอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นแต่ต้องมองปัญหาให้ออกแต่ยังต้องสามารถวิเคราะห์และมองหาวิธีการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดได้อย่างรวดเร็วอีกด้วยเพื่อป้องกันปัญหาอื่นๆ ที่อาจตามมาได้อีก โดยเฉพาะกับงานฝ่าย HR ที่ต้องแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับคน ความสัมพันธ์ซึ่งเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างชัดเจน และยังสามารถทำให้เกิดปัญหาต่อเนื่องได้ง่าย ทั้งนี้ทักษะ HR […]
ในการเปิดรับพนักงานใหม่นั้นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นต้องมีอย่างยิ่งคือ job description หรือการอธิบายเกี่ยวกับหน้าที่ตำแหน่งการทำงาน ว่าตำแหน่งที่ต้องการนั้นทำอะไรบ้าง ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นหนึ่งในการคัดเลือกพนักงานทำให้เป็นส่วนสำคัญที่ไม่อาจละเลยได้ เพราะ job description สามารถช่วยคัดกรองพนักงานที่ดีเข้ามาให้เราได้ส่วนหนึ่ง ดังนั้นมันจึงเป็นจุดเริ่มที่องค์กรต้องให้ความสำคัญในการคัดสรรบุคลากรเข้ามา วันนี้ JOBCAN จึงได้นำเอาเรื่องราวเกี่ยวกับ Job description (JD) มานำเสนอกันซึ่งจะมีทั้งรายละเอียด ประโยชน์และลักษณะที่ดีในการเขียนนั้นจะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน รายละเอียดที่ต้องมีของ Job description อย่างที่ทราบกันดีว่า job description คือการอธิบายตำแหน่งหน้าที่การทำงาน แล้วเราควรจะเขียนอธิบายอะไรลงไปบ้างนั้น มาทางนี้เลย โครงสร้างตำแหน่งและทักษะที่ต้องการ สำหรับ job description นั้นจำเป็นอย่างมากที่จะต้องบอกถึงทักษะที่ต้องการและตำแหน่งที่ผู้สมัครจะได้เข้ามา เพราะจะช่วยให้เข้าใจภาพรวมของการเข้าไปเติมเต็มองค์กร และที่สำคัญยังเป็นการพิจารณาถึงโครงสร้างตำแหน่งจึงช่วยให้ผู้สมัครได้เข้าใจถึงบทบาทหน้าที่การทำงานมากขึ้นด้วย บทบาทหน้าที่การทำงาน การเขียน job description ต้องการอธิบายบทบาทหน้าที่การทำงานอย่างชัดเจนเพราะจะเป็นการทบทวนถึงความสามารถและทักษะทั้งในรูปแบบความสามารถและความอดทนว่าจะสามารถรับหน้าที่นี้ได้หรือไม่ ดังนั้นจึงควรเขียนให้ครบถ้วนเพื่อทำความเข้าใจกับผู้สมัครตั้งแต่เริ่มต้น อัตราจ้างหรือค่าตอบแทน ค่าตอบแทนนับเป็นสิ่งสำคัญในการทำงานเลยทีเดียวจึงไม่ควรละเลยในการเขียน job description ในส่วนนี้เพื่อเป็นการทำความเข้าใจและประเมินค่าตอบแทนในการทำงานของพนักงานที่มีต่อตำแหน่งหน้าที่งานนั้นๆ โดยอิงจากโครงสร้างเงินเดือนของแต่ละบริษัท ประโยชน์ของการเขียน Job description ที่ดี การเขียน job description นับเป็นจุดเริ่มต้นในการตามหาบุคลากรที่บริษัทต้องการแล้ว […]
ในช่วงที่รูปแบบการทำงานมีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วเช่นตอนนี้ หลายตำแหน่งงานต้องมีการปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอไม่เว้นแม้แต่กับฝ่ายทรัพยากรบุคคลที่ต้องคอยบริการคนและตรวจสอบการทำงานของแต่ละตำแหน่งเองก็ต้องคอยปรับเปลี่ยนพัฒนารูปแบบการทำงานของตัวเองให้เข้ากับยุคสมัยด้วยเช่นกัน เรามาดูกันดีกว่าว่าภารกิจใหม่ที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลหรือ HR นี้จะต้องเป็นอย่างไร ตัวตนใหม่ของ HR ในยุคดิจิทัล ในยุคดิจิทัลทุกอย่างได้ถูกปรับเปลี่ยนให้สะดวกสบายมากขึ้นแต่ความท้าทายก็มากขึ้นตามไปด้วย ทำให้มีหลายสิ่งที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลจะต้องปรับตัว เรามาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง สร้างรูปแบบการทำงานและสิ่งแวดล้อมที่มีความสุขให้กับพนักงาน เวลาผ่านไปรูปแบบการทำงานก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของโควิดแบบนี้ การตามหารูปแบบการทำงานให้เหมาะสมกับเงื่อนไขอย่างการรักษาระยะห่างนั้นเรียกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้หลายบริษัทจะเป็นการ Work from home กันแล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาด้านระบบการทำงานตามมาอยู่ดี แม้ว่าการสร้างรูปแบบการทำงานที่มีความสุขให้แก่พนักงานจะไม่ใช่ภารกิจที่แปลกใหม่เพราะเป็นเรื่องที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลพยายามสร้างขึ้นมาโดยตลอด แต่สำหรับในช่วงนี้นับว่าเป็นเรื่องท้าทายมากทีเดียว ปรับสวัสดิการให้น่าสนใจและเหมาะกับความต้องการของพนักงาน เมื่อรูปแบบการทำงานเปลี่ยนแปลงแน่นอนว่ารูปแบบของการใช้ชีวิตก็ย่อมเกิดความเปลี่ยนแปลงทำให้ความต้องการเกี่ยวกับสวัสดิการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยซึ่งเป็นโจทย์ที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลจะต้องหาคำตอบเพื่อให้พนักงานที่มีศักยภาพในองค์กรตัดสินใจอยู่ด้วยกันและบุคลากรที่มีความสามารถภายนอกองค์กรหันมาให้ความสนใจกับองค์กรมากขึ้นด้วย หากมีสวัสดิการที่ตรงกับความต้องการของพนักงานย่อมทำให้การโฟกัสกับงานที่ทำให้องค์กรได้ดียิ่งขึ้นนับเป็นการพัฒนาศักยภาพขององค์กรได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมเลย มองหาช่องทางที่เหมาะสมในการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน หลายบริษัทที่เริ่มทำงานในรูปแบบ Remote working แล้วทำให้พนักงานไม่ได้เข้าออฟฟิศเหมือนอย่างเคยการพัฒนาศักยภาพของพนักงานจึงไม่สามารถทำในรูปแบบออฟไลน์ได้อีกอย่างเช่นการจัดงานสัมมนา การจัดอบรม เป็นต้น ทำให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลนี้ต้องมาหาช่องทางใหม่ในการพัฒนาศักยภาพของพนักงานในองค์กร แน่นอนว่าย่อมเป็นช่องทางออนไลน์ที่จะเข้ามาแทนที่ซึ่งนับว่าเป็นช่องทางที่ทำให้สามารถรักษาระยะห่างในช่วงเวลาโรคระบาดแบบนี้ได้เป็นอย่างดีแต่ก็ทำให้ต้องหาช่องทางอื่นเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานในองค์กรด้วยเช่นกัน ซึ่งมีหลากหลายวิธี เช่น กิจกรรมสันทนาการออนไลน์ หรือ Video Call เป็นต้น ใช้เทคโนโลยีหรือแอปที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ HR ด้วยโจทย์ต่างๆ ที่เข้ามาท้าทายความสามารถของฝ่ายทรัพยากรบุคคลทำให้ต้องหาตัวช่วยเข้ามาอย่างเช่นเทคโนโลยีหรือแอปพลิเคชั่นในการช่วยคำนวณเงินเดือน เดินเรื่องเอกสารอนุมัติภายในองค์กร หรือระบบบันทึกเวลาการทำงานของพนักงาน ซึ่งเป็นงานประจำของฝ่ายทรัพยากรบุคคลอยู่แล้วเพื่อให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลได้ใช้เวลากับการพัฒนาองค์กรในด้านต่างๆ มากขึ้น ปรับรูปแบบการทำงานภายในองค์กรให้ก้าวหน้าตามยุคสมัยอยู่เสมอ รูปแบบการทำงานจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามการใช้ชีวิตในแต่ละยุคสมัยซึ่งหากมีรูปแบบการทำงานที่เหมาะสมกับองค์กรและการใช้ชีวิตของพนักงานแล้วย่อมทำให้องค์กรสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างดีแน่นอน ตัวอย่างเช่น ช่วงเวลาการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้นหากเทียบกับสมัยก่อน หลายองค์กรเลือกจะที่ลดเวลาการทำงานเพื่อให้พนักงานสามารถจัดการเวลา […]
ในช่วงที่ต้อง Work from home กันแบบนี้เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาพิสูจน์การบริหารงานของ HR อย่างมากเลยทีเดียวเพราะเวลาการทำงานของพนักงานมีความเปลี่ยนแปลงไม่อาจนับเวลาและเข้างานได้ตามปกติอีก จำเป็นต้องมีการนับเวลาและระบบการบริหารงานบุคคลแบบใหม่มารองรับ วันนี้ JOBCAN พาคุณมาทำความรู้จักกับ Hr solution on cloud วิธีแก้ปัญหาการบริหารงานบุคคลในเวลานี้ Hr Solution on cloud คืออะไร Hr solution คือการแก้ไขปัญหาการบริหารระบบทรัพยากรบุคคล พอรวมกับ on cloud แล้วก็คือการบริหารงานทรัพยากรบุคคลผ่านระบบออนไลน์ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะเช่าซื้อซอต์ฟแวร์ที่ให้บริการระบบงานบริหารทรัพยากรบุคคลทั้งหมดแทนการพัฒนาขึ้นมาเองเพราะไม่ต้องใช้งบลงทุนมากนัก Hr Solution on cloud มีประโยชน์ดังนี้ เรามาดูประโยชน์ของ Hr solution on cloud กันให้แน่ชัดว่ามีอะไรบ้างกัน สามารถเข้าถึงระบบได้ตลอดเวลา ทั้งพนักงานและฝ่าย Hr Hr solution มักออกแบบเพื่อแก้ปัญหาให้ระบบสามารถเข้าถึงได้ง่าย ทั้งสำหรับพนักงานที่ต้องการลงบันทึกเวลาการทำงาน ซึ่งเป็นระบบสำคัญที่ทุกองค์กรควรมีในการ หรือส่งเอกสารการอนุมัติเกี่ยวกับการทำงานสามารถทำได้ง่ายและฝ่าย hr เองก็สามารถเข้าไปตรวจสอบเอกสารและบันทึกการลงเวลาทำงานได้ง่ายด้วยเพราะทุกอย่างจะเก็บอยู่ในระบบ มีความปลอดภัยของข้อมูลที่ได้มาตรฐาน ข้อมูลบันทึกการเข้า-ออกงานและเอกสารต่างๆ ที่ฝ่ายบุคคลรับผิดชอบนับเป็นเอกสารสำคัญอย่างมาก Hr solution […]
งานของฝ่ายบุคคลเป็นงานที่ละเอียดและมีความสำคัญสูงเพราะเกี่ยวข้องกับคนทั้งองค์กร ถ้าแม้ว่าจะทำอย่างละเอียดแล้วอย่างไรก็จะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง หลายบริษัทจึงแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มคน เพื่อให้งานของพนักงานฝ่ายบุคคลสามารถมีเวลาในการตรวจสอบงานได้มากขึ้น แต่ว่าจะดีกว่าไหม หากเราจะมีตัวช่วยหรือโปรแกรม hr ที่ช่วยจัดการทุกอย่างให้เป็นระบบ ลดการทำงานของคนลงแต่เพิ่มการทำงานของระบบให้เดินไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพได้ วันนี้ JOBCAN จึงมานำเสนอโปรแกรม hr ที่มีตัวช่วย 2 ตัวซึ่งจะทำให้งานของฝ่ายบุคคลไม่ว่าจะเป็นการบันทึกเวลาเข้างานอย่างระบบตอกบัตรหรือระบบคิดคำนวณเงินเดือนทำได้อย่างง่ายดายมากขึ้น มาดูกันเลยว่า Jobcan Attendance / Jobcan Payroll จะช่วยอะไรได้บ้างและช่วยอย่างไร Jobcan Attendance เริ่มกันที่โปรแกรม hr บันทึกการเข้า-ออกงานที่หลายองค์กรหรือบริษัทต้องปวดหัวเพราะการระบาดของ Covid-19 ทำให้การเข้า-ออกงานในระบบตอกบัตรแบบเดิมเริ่มใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ถึงเวลาต้องเปลี่ยนรูปแบบบันทึกการเข้างานแบบนี้ JOBCAN สามารถช่วยอย่างไรได้บ้าง จัดการการเข้า-ออกงาน วัตถุประสงค์ของระบบตอกบัตรมีก็เพื่อบันทึกเวลาการทำงานของพนักงานหรือลูกจ้างเพื่อใช้ในการคิดเงินเดือนแต่ด้วยข้อจัดมากมายจึงต้องมีการเปลี่ยนรูปแบบระบบตอกบัตรมาเป็นการเข้า-ออกงานแบบออนไลน์ ซึ่งเป็นโปรแกรม hr ที่ช่วยบันทึกเวลาการทำงานได้อย่างแท้จริงไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม ไม่จำเป็นต้องเข้าบริษัทอย่างเดียวอีกต่อไป เหมาะกับทุกคนในบริษัท สร้างกะงานได้หลากหลาย ในสมัยนี้เรามีคนทำงานที่คิดค่าจ้างหลากหลายบางคนเป็นพนักงานประจำ บางคนเป็นฟรีแลนซ์หรือบางคนเป้นพาร์ทไทม์ที่ทำงานแบบนับชั่วโมงเท่านั้น ความน่าปวดหัวนี้จึงต้องมีโปรแกรม hr เข้ามาช่วยโดยโปรแกรม Jobcan Attendance นั้นสามารถตั้งค่าได้ว่าแต่ละคนจะมีระบบตอกบัตรเข้างานของตัวเองอย่างไรบ้าง ตั้งค่าโอที การทำงานล่วงเวลาบางครั้งไม่ได้มีเพียงที่ทำงานเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นช่วงเวลาในการทำโอทีนั้นก็ควรจะถูกบันทึกเอาไว้อย่างแม่นยำเพราะนอกจากจะเกี่ยวข้องการรายได้ของพนักงานคนนั้นๆ ยังเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานได้ด้วย ซึ่ง Jobcan […]
สำหรับชีวิตการทำงานในยุคนี้ หลายๆ คนเริ่มมองหางานที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของตัวเอง ทั้งเรื่องของเวลา และเรื่องของค่าตอบแทน เพราะใครๆ ก็อยากจะมีชีวิตส่วนตัวที่สามารถเติมเต็มความสุขให้ตัวเองอย่างเต็มที่ มากกว่าที่จะทุ่มเทเวลาให้กับชีวิตส่วนรวมในเรื่องงาน หรือที่คนเดี๋ยวนี้พูดกันว่าต้องใช้ชีวิตให้มี work-life balance แบ่งเวลางานกับเวลาส่วนตัวให้พอดีกันยิ่งในสังคมการทำงานตอนนี้ที่คนทำงานเป็นชาว Gen Y รุ่นสุดท้ายที่จะเข้าสู่ตลาดงาน การจัดการระบบงานหรือสไตล์การทำงานจึงเป็นเรื่องที่หัวหน้างานหรือ HR จะต้องเตรียมความพร้อมในการดึงดูดคนเก่งให้เข้ามาร่วมทีมเพื่อทำงานให้บรรลุเป้าหมายไปได้ แล้วอะไรที่จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คนรุ่นใหม่ไฟแรงที่อยากทำงานถึงจะสนใจมาสมัครงานหรือมาร่วมงานกับเรา ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงระบบงานและสไตล์การทำงาน เวลาทำงาน ที่ลงตัวกับวิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ งานที่พวกเขาอยากทำเป็นแบบไหน คนร่วมงานต้องปรับตัวหรือพวกเขาต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงานอย่างไรบ้าง เพราะอยากทำงานที่ตรงกับ Passion การมีความสุขกับงานที่ทำจึงสำคัญ ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทัศนคติต่อการทำงานหรือความไฝ่ฝันที่มีต่องานนั้นก็เปลี่ยนไปด้วย จากที่เมื่อก่อนคนที่เรียนจบมาหางานทำ หรือคนที่ทำงานมาหลายปีแล้วก็ตาม มักจะอยากทำงานที่มีความมั่นคง รายได้ดี ตรงกับความสามารถของตัวเอง หรืองานที่จะทำให้ตัวเองสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายหรือดูแลตัวเองและครอบครัวได้ โดยที่บางคนอาจโฟกัสไปที่เรื่องของตัวเลขรายได้ที่ตัวเองพอใจ หรือบางคนอาจไม่ได้เจาะจงที่เงินเดือน แต่ต้องการเข้าไปทำงานในบริษัทหรือหน่วยงานที่มั่นคงและมีความก้าวหน้าในสายงานชัดเจน จริงๆแล้วคนรุ่นใหม่ที่ทำงานในยุคนี้ก็คิดถึงเรื่องพวกนี้อยู่เหมือนกัน เพียงแต่อาจจะไม่ใช่เรื่องของเงินเดือนและความมั่นคงเพียงเท่านั้น แต่คนรุ่นใหม่อยากทำงานที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้ด้วย ไม่ใช่เพียงแค่ work-life balance แต่งานที่ทำต้องเติมเต็ม Passion และทำให้พวกเขารู้สึกว่ามีไฟในการทำงานอยู่ตลอดเวลา เรื่องของเวลาในการทำงานก็เป็นอีกเรื่องที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญ เพราะการบาลานซ์ความพอดีของการใช้เวลาในแต่ละวันนั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญ คนรุ่นใหม่อาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับการทำงานหนัก ทำโอทีทุกวัน แต่พวกเขาอยากทำงานที่สามารถทำ task list […]
เจาะลึกความสำเร็จของคนทำงานแต่ละคน ก็ตั้งเป้าหมายกันไว้คนละอย่าง บางคนหากพูดถึงความสำเร็จในเรื่องงานอาจนึกไปถึงเรื่องของการมีหน้าที่การงาน ตำแหน่งสูงๆ ได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้า เป็นผู้บริหารในบริษัท ส่วนความสำเร็จเรื่องงานของบางคนอาจเป็นการได้ทำงานในบริษัทที่มีสภาพแวดล้อมแบบที่ตัวเองต้องการ หรือว่าอาจจะเป็นการทำงานในแผนกหรือตำแหน่งที่ได้รับงานทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เช่น คนที่ชอบทำงานออกแบบหรือดีไซน์ แต่อาจจะทำงานอยู่ในบริษัทที่ขายโปรดักส์อะไรก็ได้ แต่ถ้าคนทำกราฟฟิกมีความสุขและแพชชันกับงานที่ทำ ไม่ว่าจะเป็นโปสเตอร์หรืองานกราฟฟิกอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับงาน และยังมีความก้าวหน้าใน career path ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่ง หรือหากพูดถึงเรื่องของความสำเร็จ บางคนอาจให้ความสนใจไปที่เรื่องอื่นมากกว่าเรื่องงาน ก็เป็นไปได้เหมือนกัน ซึ่งเรื่องของความสำเร็จหรือสไตล์การทำงานนี้ระหว่างคนทำงานเมื่อก่อนกับคนรุ่นใหม่ย่อมมีความแตกต่างกันอย่างแน่นอนและเมื่อคนทำงานแต่ละคนมีมุมมองต่องาน ต่อความสำเร็จแตกต่างกัน ก็เป็นภาระของคนที่มีหน้าที่ดูแลงานบริหารบุคคล ที่จะต้องทำให้พนักงานหรือคนทำงานทุกคนมองเห็นภาพความสำเร็จ เป้าหมายในการทำงาน ทั้งเรื่องของเนื้องานและเรื่องความก้าวหน้าในค่าตอบแทนอย่างเงินเดือนด้วยเช่นกัน และที่เป็นสิ่งที่ HR ยุคใหม่ ต้องเตรียมรับมือ สำหรับในบทความนี้ Jobcan อยากจะมาพูดถึงสไตล์การทำงานของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน ต่อเนื่องจากเรื่องของนิยามความสำเร็จของแต่ละ Generation โดยเฉพาะกับคน Gen Y มาดูกันว่าคนทำงานที่เข้าสู่ตลาดงานทั้งที่มีอายุงานตั้งแต่ 3 ถึง 10 ปี ตั้งแต่ระดับพนักงานไปจนถึงหัวหน้างาน ว่าคนใน Gen เดียวกันแต่ต่างช่วงวัยของอายุ ซึ่งในบางครั้งคนเจนเดียวกันนี่แหละที่ทำงานอยู่ในองค์กรเดียวกัน แต่คนละตำแหน่ง คนละแผนก ก็เกิดความไม่เข้าใจในความคิดหรือทัศนคติกันเอง ซึ่งการทำให้สมาชิกในองค์กรมีความเข้าใจในสไตล์การทำงาน มุมมองต่องาน เพื่อให้ไปสู่เป้าหมายพร้อมกันได้ทั้งทีม ย่อมเป็นเรื่องสำคัญของงานบริหารบุคคลที่ไม่ว่าจะองค์กรเล็กหรือองค์กรใหญ่ก็ควรให้ความสนใจ […]
จากบทความก่อนหน้านี้เรื่อง HR 4.0 จะพอเห็นได้ว่าในปัจจุบันนั้น ฝ่ายบุคคลหรือคนที่ทำงานด้านทรัพยากรมนุษย์ในองค์กร จะต้องตื่นตัวและเรียนรู้วิธีการควบคุมและดูแลพนักงานของตัวเอง ทั้งเรื่องของการทำงาน และความสุขในการใช้ชีวิตในที่ทำงาน ซึ่งหลายๆ ครั้งเราอาจเคยได้ยินว่า HR ยุคดิจิตอล ในยุคนี้ต้องเร่งปรับตัวให้ทันทั้งเทคโนโลยี ระบบ function ต่างๆ ให้ fit in กับบริบทภายในองค์กร รวมถึงการมาถึงของพนักงานรุ่นใหม่ ที่อาจจะมาพร้อมชุดความคิดและอุดมการณ์ที่ต่างไปจากพนักงานรุ่นก่อนๆ ที่เราเคยดูแลหรือเคยร่วมงานด้วย แน่นอนว่านี่ไม่ใช่การมาถึงของพนักงานในแผนกอื่นหรือตำแหน่งอื่นๆเท่านั้น แม้แต่ HR เอง ก็ต้องยอมรับว่า มีน้องๆจบใหม่ หรือคนรุ่นใหม่ที่ทำงานสายนี้ เพิ่มเข้ามาในตลาดมากขึ้น ดังนั้นคงปฏิเสธไม่ได้ว่า การปรับตัวให้สามารถทำงานเข้ากับคนรุ่นใหม่ไม่ได้เป็นเฉพาะบริบทของ HR กับพนักงานทั่วไป แต่รวมถึงการปรับตัวกับ HR รุ่นใหม่กันเองด้วย ดังนั้น เรื่องของ Generation จึงเป็น topic ที่หลายคนพูดถึงสำหรับการทำงานในยุคนี้ โดยเฉพาะยุคที่คนทำงานส่วนใหญ่เป็นคน Gen Y และรวมถึง Gen Z เพราะในปัจจุบัน มีบริษัทหรือธุรกิจใหม่ๆ ที่เติบโตขึ้นมาในช่วงที่เทคโนโลยีต่างๆ พัฒนาขึ้น ทั้งสาย […]
เมื่อความสุขของพนักงานคือส่วนสำคัญในเป้าหมายของ HR หลายๆ องค์กรในปัจจุบันจึงมีความเชื่อว่าเมื่อพนักงานมีความสุขกับการทำงานย่อมได้ผลลัพธ์ที่ดีตามมา HR กับการบริหารพนักงานภายในองค์กรจึงเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโต และต้องสามารถดึงศักยภาพของพนักงานออกมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด การวางแผนการบริหารพนักงานภายในองค์กร จึงเป็นส่วนที่ HR ควรให้ความสำคัญอย่างมากเพื่อที่จะสามารถบริหารพนักงาน ให้เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัท และพนักงานต้องได้รับประโยชน์สูงสุดตอบแทนการทำงานเพื่อองค์กร ด้วย 7 ขั้นตอนในการบริหารพนักงานให้มีความสุขเมื่อต้องอยู่ร่วมกันในองค์กรต่อไปนี้ 1.สำรวจความพึงพอใจในการทำงาน HR จำเป็นจะต้องคอยบริหารพนักงานในองค์กร ดังนั้นการสำรวจความพึงพอใจของพนักงานในการทำงานจึงสำคัญอย่างมาก เพราะการทราบปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในองค์กร เมื่อเกิดปัญหา HR จำเป็นต้องเข้าไป Take Action หรือมีส่วนในการช่วยแก้ไขปัญหาของพนักงาน ดังนั้นการสำรวจความพึงพอใจ จะทำให้การทำงานของ HR ง่ายขึ้น เพราะ HR จะได้ข้อมูลจากพนักงานโดยตรง 2. การประเมินการทำงานของพนักงาน เมื่อพนักงานมีการทำงานไปซักระยะนึง HR ควรมีการจัดทำแบบประเมินการทำงานของพนักงานแต่ละท่าน แบบประเมินนี้จะสามารถช่วยในการบริหารพนักงาน จัดการระบบ เพื่อที่จะพัฒนาการทำงาน หรือแนวคิดของพนักงานท่านนั้นๆ และข้อมูลจากแบบประเมินจะได้ใช้ประโยชน์ทั้งกับ HR เอง และหัวหน้างานหรือแผนกนั้นๆ ด้วย การนำผลการประเมินมาวิเคราะห์และหาแนวทางการทำงานที่เหมาะสมกับพนักงาน ก็จะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรได้มากขึ้น 3.วางแผนการสื่อสารภายในองค์กร HR คือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้พนักงานในองค์กรมองเห็นเป้าหมายและวัตถุประสงค์ไปในทางทิศเดียวกันได้ ซึ่งสิ่งสำคัญในการบริหารพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพคือต้องทำให้พนักงานเข้าใจและมุ่งไปในเป้าหมายเดียวกัน ตั้งแต่ระดับแผนก […]
ที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของ HR ถูกจดจำในรูปแบบของการทำงานในรูปแบบเก่า หรือถูกมองเป็นฝ่ายปกครองภายในองค์กร หากจินตนาการ อาจจะเป็นใครสักคนที่พยายามจับผิด หรือตั้งตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามกับพนักงานอยู่เสมอ ซึ่งภาพลักษณ์แบบนี้ของ HR มักทำลายบรรยากาศในการทำงาน และส่งผลให้พนักงานไม่สามารถดึงศักยภาพของตนออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ HR ในยุค 4.0 จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องลุกขึ้นมา ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของ HR และปรับเปลี่ยนกระบวนการการทำงานต่างๆ เพราะ HR 4.0 จะต้องเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้องค์กรสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน HR 4.0 ต้องปรับกระบวนการทางความคิด การปรับตัวอันดับแรกของการก้าวสู่การเป็น HR ยุคใหม่ ต้องไม่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับพนักงาน เพราะ HR คือเฟืองตัวสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจขับเคลื่อนได้ โดย HR จะต้องสามารถสร้างบรรยากาศการทำงานภายใน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมศักยภายในการทำงานของพนักงานให้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และยังต้องสามารถรักษาพนักงานที่มีคุณภาพไว้ภายในองค์กรได้อีกด้วย HR 4.0 จำเป็นต้องเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆอยู่เสมอ ต้องสามารถนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาผสมผสานกับ HR Skill ที่มี จะช่วยให้การทำงานของ HR สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น สามารถลดขั้นตอนและระยะเวลาการทำเอกสารลงไปได้ อาทิเช่น ระบบ Time Attendance อย่าง JOBCAN […]