HR ยุคดิจิตอล ดูแลคนทุก Gen อย่างทั่วถึงและถูกใจได้ เพราะการทำงานกับคนรุ่นใหม่ไม่ใช่ปัญหา!
จากบทความก่อนหน้านี้เรื่อง HR 4.0 จะพอเห็นได้ว่าในปัจจุบันนั้น ฝ่ายบุคคลหรือคนที่ทำงานด้านทรัพยากรมนุษย์ในองค์กร จะต้องตื่นตัวและเรียนรู้วิธีการควบคุมและดูแลพนักงานของตัวเอง ทั้งเรื่องของการทำงาน และความสุขในการใช้ชีวิตในที่ทำงาน ซึ่งหลายๆ ครั้งเราอาจเคยได้ยินว่า HR ยุคดิจิตอล ในยุคนี้ต้องเร่งปรับตัวให้ทันทั้งเทคโนโลยี ระบบ function ต่างๆ ให้ fit in กับบริบทภายในองค์กร รวมถึงการมาถึงของพนักงานรุ่นใหม่ ที่อาจจะมาพร้อมชุดความคิดและอุดมการณ์ที่ต่างไปจากพนักงานรุ่นก่อนๆ ที่เราเคยดูแลหรือเคยร่วมงานด้วย
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่การมาถึงของพนักงานในแผนกอื่นหรือตำแหน่งอื่นๆเท่านั้น แม้แต่ HR เอง ก็ต้องยอมรับว่า มีน้องๆจบใหม่ หรือคนรุ่นใหม่ที่ทำงานสายนี้ เพิ่มเข้ามาในตลาดมากขึ้น ดังนั้นคงปฏิเสธไม่ได้ว่า การปรับตัวให้สามารถทำงานเข้ากับคนรุ่นใหม่ไม่ได้เป็นเฉพาะบริบทของ HR กับพนักงานทั่วไป แต่รวมถึงการปรับตัวกับ HR รุ่นใหม่กันเองด้วย
ดังนั้น เรื่องของ Generation จึงเป็น topic ที่หลายคนพูดถึงสำหรับการทำงานในยุคนี้ โดยเฉพาะยุคที่คนทำงานส่วนใหญ่เป็นคน Gen Y และรวมถึง Gen Z เพราะในปัจจุบัน มีบริษัทหรือธุรกิจใหม่ๆ ที่เติบโตขึ้นมาในช่วงที่เทคโนโลยีต่างๆ พัฒนาขึ้น ทั้งสาย Tech และ E-commerce หรือแม้แต่สายโฆษณาและการตลาด บริษัทที่ทำธุรกิจทั้วไป บางบริษัทต้องบอกว่าไม่มีพนักงานหรือแม้แต่ผู้บริหารที่เป็นคน Gen X เลยเสียด้วยซ้ำ
แล้วสำหรับบริษัทที่ยังมี HR หัวหน้า ผู้บริหาร Gen X หรือแม้แต่ Baby Boomer ล่ะ จะทำยังไงกันดี!
หัวหน้ายุคใหม่ หรือ HR ยุคดิจิตอลจะปรับตัวหรือเข้าใจความคิดความต้องการของพนักงานอย่างไร เพื่อให้ flow การทำงานและการประสานงานต่างๆ ในองค์กรเป็นไปได้อย่างราบรื่น
HR ยุคดิจิตอล ดูแลคนรุ่นใหม่ให้แฮปปี้ด้วยการจัดการสภาพแวดล้อมการทำงานให้ดีอยู่เสมอ
สิ่งแรกที่บริษัท หรือในฐานะของ HR ยุคดิจิตอล ที่ทำหน้าที่บริหารและดูแลพนักงานแทนบริษัท สามารถเริ่มทำเพื่อรองรับความต้องการของพนักงานรุ่นใหม่ได้ ก็คือเรื่องของการปรับสภาพแวดล้อมในที่ทำงาน เริ่มจากการปรับ Layout โต๊ะทำงาน หรือปรับเปลี่ยนมุมทำงานบางจุด ให้แตกต่างจากเดิม หา Partition หรือชั้นวางของ หรืออะไรมาประดับตกแต่งออฟฟิศให้ดูแปลกใหม่ เป็นการ Refresh เปลี่ยนบรรยากาศในการทำงาน ให้พนักงานได้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและมีพลังในการทำงานมากขึ้น อาจให้พนักงานมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นว่าอยากได้มุมทำงานแบบไหน เพื่อให้ได้บรรยากาศการทำงานที่ถูกใจพวกเขาด้วย แม้แต่โต๊ะทำงานของ HR เองก็เปลี่ยนได้เหมือนกันนะ
เมื่อ HR ยุคดิจิตอลต้องกลายเป็น HR สายซับ ดูแลเรื่อง Device ให้พนักงาน ได้ทั้งใจ ได้ทั้ง Result
อีกอย่างที่ HR ยุคดิจิตอล หรือ HR สายซับ [Support] สามารถทำได้ ก็คือการดูแลพนักงานคนรุ่นใหม่ในเรื่องของ Device ต่างๆ ในการทำงาน แม้ว่าเรื่องของ Team management จะเป็นหน้าที่หลักของเหล่า Leader แต่ HR ก็สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้ ในแง่ของสวัสดิการบริษัท อาจมีการทำ Survey ไปยังแผนกต่างๆ หรือพนักงานในบางตำแหน่งที่ต้องการ update อุปกรณ์การทำงานรุ่นใหม่ๆ หรือแม้แต่ software หรือ service ต่างๆที่จะเป็น solutionในการทำงานได้ เรื่องเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องรอให้เป็นหน้าที่ของฝ่าย IT หรือรอให้แต่ละ project มาเสนอเอง HR สามารถเข้าไปสอบถามและมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับทีมได้ จะได้เพิ่มโอกาสในการได้พูดคุย และได้ทราบว่าพนักงานของเราคนไหนมีความต้องการอะไร หรือการทำงานในตำแหน่งไหนต้องใช้เทคโนโลยีอะไรเข้ามาช่วย เพื่อให้การทำงานของพวกเขาบรรลุเป้า หรือได้ result ที่ดีขึ้น และ HR เองก็ได้อัพเดทข้อมูลเหล่านี้ให้ตัวเองไปด้วยในตัว
จัด Activity ดีๆ ให้พนักงานได้ผ่อนคลาย เรื่องง่ายๆที่ HR ยุคดิจิตอลทำได้
เพราะคนรุ่นใหม่ก็มีความคิดที่อยากจะใช้ชีวิตแบบ work life balance เหมือนคติประจำใจของคน Gen X แต่มากกว่านั้นคือคนรุ่นใหม่ยังต้องการ blend ความสนุกของชีวิตกับความท้าทายของการทำงานเข้าด้วยกันให้ได้ลงตัวด้วย ดังนั้นการทำงานที่จริงจังก็มาพร้อมกับการหาอะไรคลายเครียดทำไปควบคู่กัน หรือจะบอกว่าคนรุ่นใหม่ work hard play hard ก็ได้เหมือนกัน HR ยุคดิจิตอลที่อยากจะมีส่วนในการเพิ่มความสนุกให้พนักงานอาจจะเริ่มจากการปรับเปลี่ยนใน area ที่สามารถทำได้ เช่น สวัสดิการ หรือ wellfare ของบริษัท เช่น การผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน ด้วยกิจกรรมชมรม หรือมุมพักผ่อนให้กับพนักงาน
ยิ่งถ้าเป็นบริษัทที่ก่อนหน้านี้นั่งทำงานโต๊ะติดกันเป็นแถวๆ นั่งกันสงบเงียบเรียบร้อย ไม่มีพื้นที่ส่วนกลางให้ได้นั่งเล่นผ่อนคลาย หากได้มีมุมนั่งเล่นพักผ่อน เช่น มุมอ่านหนังสือ หรือโซนเล่นเกม โซนออกกำลังกาย โดยระบุช่วงเวลาในการใช้งานให้ชัดเจนและเข้าใจได้ เหมาะสมกับสไตล์และเวลาทำงานของทีมต่างๆ บรรยากาศและวัฒนธรรมในการทำงานก็คงจะมีสีสันขึ้นไม่มากก็น้อย ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมในการทำงาน จากทำงานอย่างเคร่งเครียด ให้ได้มีเวลาว่างในการผ่อนคลายความเครียดด้วยชั่วโมงกิจกรรม
“Culture is the key“
HR ยุคดิจิตอล ทำอย่างไรเมื่อวัฒนธรรมองค์กรเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญ
เรื่องต่อไปที่ต้องใช้เวลาและวางแผนกันสักหน่อย ก็คือเรื่องของวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งค่อนข้างจะเป็นเรื่องที่จริงจังและปรับเปลี่ยนแบบรวดเร็วได้ยาก ยกเว้นว่าเป็นองค์กรที่ผู้บริหารหรือผู้นำพร้อมที่จะเปลี่ยน แต่ก็ไม่ใช่ว่า HR จะแตะเรื่องนี้กับพนักงานรุ่นใหม่ไม่ได้เลยซะทีเดียว ลองหาแนวคิด หรือเลือกหยิบวัฒนธรรมเดิมบางอย่างที่สามารถปรับให้เข้ากับวิถีการทำงานยุคดิจิตอลได้
ถ้าบริษัทของคุณมีพนักงาน Gen Y หรือ Gen Z อยู่หลายคน อาจจะลองทำแบบสำรวจ หรือแบบประเมินความพึงพอใจของพนักงานเหล่านี้ ว่าปัจจุบันที่ทำงานอยู่เขามีความสุขมากแค่ไหน และต้องการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ เขาเข้าใจและรู้สึกมีส่วนร่วมกับวัฒนธรรมองค์ในปัจจุบันหรือเปล่า แล้วจึงนำผลของแบบสอบถามนั้นมาดูว่าความรู้สึกของพวกเขาเข้ากับเป้าหมายหรือวัฒนธรรมขององค์กรที่มีอยู่ได้หรือไม่
อนาคตในฐานะ HR ยุคดิจิตอล ที่องค์กรหรือบริษัทของคุณจะต้องค่อยๆปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำงานบางอย่างให้เข้ากับยุคสมัย จะปรับวัฒนธรรมองค์กรอย่างไรให้อยู่ได้ในยุคที่ใครๆ ก็ต่างงัดเอาความรู้และชั้นเชิงธุรกิจและเทคโนโลยีมาแข่งขันกัน และแน่นอนว่าการเพิ่มจำนวนของพนักงานคนรุ่นใหม่ก็จะต้องเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะค่อยๆ ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมหรือค่านิยมขององค์กรอย่างไรให้ “ทันสมัย” มากขึ้น
HR ยุคดิจิตอล ทำงานออนไลน์ได้ทุกที่ ใช้เทคโนโลยีในการจัดการงานต่างๆ
เรื่องของเทคโนโลยี และการแข่งขันในเรื่องของนวัตกรรมต่างๆ เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ากำลังเป็นที่พูดถึง ทั้งเรื่องของ AI หรือการใช้ปัญญาประดิษฐ์ที่จะเข้ามาช่วยในการทำงานต่างๆ แทนที่การใช้คนที่แต่ละบริษัทต่างก็เริ่มคำนึงถึงเรื่องของการประหยัดต้นทุนทั้งในเรื่องของการจ้างพนักงาน และการลดเวลาในการทำงานต่างๆ และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลลัพธ์ของงานที่สามารถควบคุมได้ ทำให้การเข้ามาของ AI หุ่นยนต์ หรือแม้แต่การใช้ซอฟต์แวร์ต่างๆมาช่วยงานมนุษย์มีให้เห็นมากขึ้น
เช่น จากเมื่อก่อน Task งานบางอย่างต้องใช้คน 2 ถึง 3 คน เดี๋ยวนี้มีโปรแกรม มีระบบช่วยงานที่ทำให้ทำงานได้ง่ายขึ้น ก็ทำให้ worker สามารถทำงานได้ผลลัพธ์เท่าเดิมแต่ใช้คนทำงานลดลงเหลือแค่คนเดียว คือคนควบคุมระบบหรือคนที่ใช้งานโปรแกรม หรือเรื่องของการเก็บข้อมูลและเอกสาร ที่ HR ยุคดิจิตอลต้องให้ความสำคัญ อย่างการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ไว้ on Cloud ที่ปัจจุบันเริ่มมีหลายๆ service ที่หันมาใช้ระบบจัดเก็บข้อมูลไว้บนคลาวด์เพื่อให้ลูกค้าหรือผู้ใช้งานระบบสามารถเรียกดูข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ไม่เพียงแต่ระบบการทำงานออนำลน์ของแผนกอื่น แต่งานของ HR เองก็สามารถทำออนไลน์ได้เช่นกัน
เช่น การใช้ระบบจัดการเวลาเข้าออกงานของพนักงาน Jobcan ที่ใช้การจัดเก็บข้อมูลของพนักงานไว้บน Cloud ทำให้ผู้ใช้งานทั้งพนักงาน หัวหน้างาน และ HR สามารถเรียกดูข้อมูลและส่งคำขอออนไลน์ได้ตลอดเวลาผ่านอุปกรณ์ที่หลากหลาย
การใช้โปรแกรมแบบนี้จะทำให้พนักงานรู้สึกว่า HR และบริษัทใส่ใจในการอำนวยความสะดวกในการทำงานให้แก่พนักงาน ส่วน HR หรือคนที่ต้องทำเงินเดือนก็สามารถตรวจสอบข้อมูลการทำงานได้อย่างง่ายดาย แม่นยำ รวดเร็ว ประหยัดเวลาในการทำงาน และยังเป็นการประหยัดทรัพยากรเพราะไม่ต้องใช้กระดาษในการรวบรวมและทำเอกสารอีกด้วย
สรุป
เรื่องของการดูแลพนักงานคนรุ่นใหม่สำหรับ HR ยุคดิจิตอล ที่ต้องการทำความเข้าใจในไลฟ์สไตล์การทำงานและความต้องการของคน Gen Y, Gen Z หรือชาวมิลเลนเนียลมากขึ้น หาก HR หรือบริษัทสามารถปรับตัว ปรับสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมองค์กรให้เข้ากับความต้องการของคนทำงานได้ ก็จะทำให้การทำงานร่วมกันมีความสุขและสะท้อนผ่านผลลัพธ์ของงาน เพราะคนรุ่นใหม่ไม่ได้ให้ความสำคัญแค่การเติบโตในสายงาน หรือค่าตอบแทนเพียงเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญการสถานที่ทำงานให้ให้ความสบายใจและสไตล์การทำงานที่ทำให้พวกเขารู้สึกว่าจะสามารถทำงานที่นี่ได้อย่างมีความสุข ได้พัฒนาตนเอง ไม่เครียด สบายใจ และได้ทำงานหรือความท้าทายใหม่ๆ ที่ไม่จำเจ
Jobcan Attendance ระบบตอกบัตรออนไลน์พนักงาน
สนใจระบบ Jobcan ติดต่อ 02-107-1867
ลงทะเบียนสอบถามข้อมูล : https://bit.ly/3pamnFe
Recent Comments