ในการเปิดรับพนักงานใหม่นั้นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นต้องมีอย่างยิ่งคือ job description หรือการอธิบายเกี่ยวกับหน้าที่ตำแหน่งการทำงาน ว่าตำแหน่งที่ต้องการนั้นทำอะไรบ้าง ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นหนึ่งในการคัดเลือกพนักงานทำให้เป็นส่วนสำคัญที่ไม่อาจละเลยได้ เพราะ job description สามารถช่วยคัดกรองพนักงานที่ดีเข้ามาให้เราได้ส่วนหนึ่ง ดังนั้นมันจึงเป็นจุดเริ่มที่องค์กรต้องให้ความสำคัญในการคัดสรรบุคลากรเข้ามา วันนี้ JOBCAN จึงได้นำเอาเรื่องราวเกี่ยวกับ Job description (JD) มานำเสนอกันซึ่งจะมีทั้งรายละเอียด ประโยชน์และลักษณะที่ดีในการเขียนนั้นจะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน รายละเอียดที่ต้องมีของ Job description อย่างที่ทราบกันดีว่า job description คือการอธิบายตำแหน่งหน้าที่การทำงาน แล้วเราควรจะเขียนอธิบายอะไรลงไปบ้างนั้น มาทางนี้เลย โครงสร้างตำแหน่งและทักษะที่ต้องการ สำหรับ job description นั้นจำเป็นอย่างมากที่จะต้องบอกถึงทักษะที่ต้องการและตำแหน่งที่ผู้สมัครจะได้เข้ามา เพราะจะช่วยให้เข้าใจภาพรวมของการเข้าไปเติมเต็มองค์กร และที่สำคัญยังเป็นการพิจารณาถึงโครงสร้างตำแหน่งจึงช่วยให้ผู้สมัครได้เข้าใจถึงบทบาทหน้าที่การทำงานมากขึ้นด้วย บทบาทหน้าที่การทำงาน การเขียน job description ต้องการอธิบายบทบาทหน้าที่การทำงานอย่างชัดเจนเพราะจะเป็นการทบทวนถึงความสามารถและทักษะทั้งในรูปแบบความสามารถและความอดทนว่าจะสามารถรับหน้าที่นี้ได้หรือไม่ ดังนั้นจึงควรเขียนให้ครบถ้วนเพื่อทำความเข้าใจกับผู้สมัครตั้งแต่เริ่มต้น อัตราจ้างหรือค่าตอบแทน ค่าตอบแทนนับเป็นสิ่งสำคัญในการทำงานเลยทีเดียวจึงไม่ควรละเลยในการเขียน job description ในส่วนนี้เพื่อเป็นการทำความเข้าใจและประเมินค่าตอบแทนในการทำงานของพนักงานที่มีต่อตำแหน่งหน้าที่งานนั้นๆ โดยอิงจากโครงสร้างเงินเดือนของแต่ละบริษัท ประโยชน์ของการเขียน Job description ที่ดี การเขียน job description นับเป็นจุดเริ่มต้นในการตามหาบุคลากรที่บริษัทต้องการแล้ว […]
ทัศนคติเป็นส่วนหนึ่งที่บริษัทมักให้ความสำคัญในขณะที่ทำการสัมภาษณ์เพื่อคัดเลือกพนักงานเพราะทัศนคติหรือแนวความคิดในการทำงานนั้นสามารถส่งผลได้หลายรูปแบบทีเดียว วันนี้ JOBCAN จึงได้รวมเอาทัศนคติที่ดีต่อการทำงานที่บริษัทที่ไหนก็ต้องการ 5 ข้อ มาดูกันว่าทัศนคติแบบใดบ้างที่พนักงานควรมี แต่ก่อนอื่นเราจะไปดูเหตุผลที่ทัศนคติเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำงานกันก่อน ทำไมทัศนคติในการทำงานจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทัศนคติหรือแนวความคิดนั้นสามารถสร้างผลกระทบได้มากมายตั้งแต่การทำงาน การแก้ปัญหา การประสานงานหรือกระทั่งการร่วมงาน ผ่านการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีโดยทัศนคติที่ดีสามารถทำให้งานออกมาประสบความสำเร็จได้ง่ายและการร่วมงานระหว่างเพื่อนร่วมงานก็ทำได้อย่างสนุกสนาน ขณะที่การมีทัศนคติที่แย่นั้นจะทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปได้ยากจึงทำให้สำเร็จได้ยากตามไปด้วย สามารถกล่าวได้ว่าทัศนคตินั้นมีผลต่อบรรยากาศการทำงานมากกว่าผลงานเลยทีเดียว ดังนั้นหลายบริษัทจึงไม่คัดเลือกเพียงความสามารถแต่ยังมองถึงทัศนคติที่มีต่อการทำงานด้วย ทัศนคติ 5 ข้อที่ควรมีในการทำงาน สำหรับทัศนคติที่เป็นที่ต้องการของหลายบริษัทนั้นมักจะไปในทางเดียวกัน ซึ่ง JOBCAN ได้รวบรวมมาแล้วดังนี้ รักในงานที่ทำ การเริ่มต้นทำงานด้วยความรู้สึกที่ดีต่องานนั้นเป็นทัศนคติแรกที่บริษัทจะพิจารณาเพราะเมื่อมีความคิดความรู้สึกดีๆ ต่อการทำงานแล้วย่อมสามารถสร้างผลงานที่ดีออกมาได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะเมื่องานที่ทำเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของชีวิตยิ่งทำให้พนักงานมีจิตใจทุ่มเทให้กับการทำงานมากขึ้นอย่างแน่นอน นี่จึงเป็นทัศนคติที่สำคัญอย่างมาก เคารพและให้เกียรติผู้อื่น ทัศนคติที่มีต่อคนรอบข้างก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันเพราะการรับมือกับความแตกต่างเป็นทักษะที่ส่งผลต่อบรรยากาศการทำงาน หากพนักงานมีทัศนคติไม่ดีอาจทำให้ผลงานที่ทำออกมาไม่ดีเท่าที่ควรและอาจส่งผลให้เกิดการลาออกของพนักงานคนอื่นๆ ด้วยจึงทำให้ในการสัมภาษณ์งานมักมีคำถามที่เกี่ยวข้องกับการรับมือปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากบุคคลขึ้นมาทดสอบด้วยนั่นเอง มองโลกในแง่ดี ในการทำงานจะต้องเผชิญกับปัญหามากมายเป็นประจำ ดังนั้นการมองโลกในแง่ดีจึงช่วยให้มีความสุขกับการทำงานมากขึ้นและยังเป็นการมอบพลังบวกให้กับเพื่อนร่วมงานและคนรอบตัวได้ด้วย นอกจากนี้การมองโลกในแง่ดียังช่วยส่งเสริมให้ประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีมากยิ่งขึ้นเพราะการมองโลกในง่ดีสามารถสร้างพลังให้กับตัวเราเองได้ด้วยเช่นกัน รักในการพัฒนาตนเอง ไม่มีบริษัทหรือองค์กรใดที่ต้องให้พนักงานเข้ามาแล้วทำเพียงสิ่งเดียวโดยไม่มีการพัฒนาอย่างแน่นอน เพราะการพัฒนาตนเองของพนักงานย่อมเท่ากับเป็นการพัฒนาองค์กรไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นทัศนคติที่รักในการพัฒนาตนเองย่อมกลายเป็นสิ่งที่ HR มองหา นอกจากนี้การพัฒนาตนเองอยู่เสมอของพนักงานสามารถกระตุ้นให้เพื่อร่วมงานต้องการจะพัฒนาตนเองไปด้วยกันได้ ตั้งรับปัญหาด้วยรอยยิ้ม ในการทำงานย่อมต้องเผชิญปัญหามากมายหากพนักงานท้อแท้ง่ายหรือไม่สู้กับปัญหาย่อมสร้างความเสียหายให้กับบริษัทได้ในที่สุด ดังนั้นทัศนคติในการทำงานที่ต้องมีคือการไม่กลัวต่อปัญหาที่จะได้พบและแก้ไขมันด้วยความคิดในแง่บวกย่อมทำให้สนุกไปกับการทำงานและทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีในที่สุด ซึ่งนี่เป็นทัศนคติที่ HR ต่างมองหาแต่ไม่สามารถตามหาได้ง่ายเพราะเป็นทัศนคติที่ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ แน่นอนว่าความสามารถในการทำงานเป็นเรื่องสำคัญแต่ขณะเดียวกันการคัดเลือกทัศนคติที่ดีก็เป็นเรื่องที่ HR ให้ความสำคัญมากด้วยเช่นกัน เพราะความสามารถเป็นสิ่งที่สามารถพัฒนาได้และทำให้ง่ายขึ้นหากพนักงานมีทัศนคติที่ดี นอกจากนี้ยังพัฒนาให้องค์กรกลายเป็นที่ทำงานให้มีบรรยากาศการทำงานดีขึ้นด้วย […]
สำหรับมนุษย์เงินเดือนทุกคนแล้วคงต้องคุ้นเคยกับการได้รับสลิปเงินเดือนกันอย่างแน่นอน เพราะเมื่อได้รับเงินเดือนแล้วมักจะได้รับสลิปนี้ตามกลับมาด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นสลิปที่เรียกความสุขให้เราได้มากที่สุดแล้ว แต่ความจริงแล้วนั้นใบสลิปเงินเดือนที่แจ้งรายการเงินเข้าเหล่านี้มีประโยชน์ต่อเราอย่างไร ทำไมองค์กรหรือบริษัทจะต้องมอบให้พนักงานที่ได้รับเงินเดือน วันนี้ JOBCAN ได้นำเอาคำตอบถึงความสำคัญของสลิปเงินเดือนนี้มาให้แล้ว ทำไมต้องมีสลิปเงินเดือน สลิปเงินเดือนคือใบเสร็จที่แสดงรายการเงินได้ของเดือนเดือนหนึ่งให้กับพนักงานไม่ว่าจะเป็นรายการที่ได้เงินพิเศษหรือหักลบเงินออกทั้งหมดจะแสดงให้พนักงานได้เห็นชัดถึงที่มาที่ไปของเงินอย่างชัดเจนตามข้อตกลงที่พนักงานและบริษัทมีร่วมกัน ช่วยให้พนักงานรับรู้ที่มาของเงินเดือนได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถตรวจสอบเงินได้ต่อเดือนได้เสมอ ในสลิปเงินเดือนจะบอกอะไรเราบ้าง ในสลิปเงินเดือนเราจะได้เห็นข้อมูลดังนี้ ชื่อ-นามสกุลและตำแหน่งของพนักงาน ชื่อบริษัทและเลขประจำตัวผู้เสียภาษี วัน เดือน ปีที่จ่ายเงิน รายละเอียดรายได้เช่น ค่าล่วงเวลา เงินเดือน เงินพิเศษ การหักภาษีหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ สรุปรายได้สุทธิที่พนักงานได้ในเดือนนั้นๆ สลิปเงินเดือนสามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง สลิปเงินเดือนนับเป็นหลักฐานการรับเงินอย่างหนึ่งที่บริษัทได้ออกให้กับพนักงานจึงสามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันกับที่อื่นๆ ได้ ดังนี้ สลิปเงินเดือนเพื่อทำธุรกรรมกับธนาคาร สลิปเงินเดือนนับเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถืออย่างหนึ่งในการยืนยันว่ามีเงินได้ที่มั่นคง พร้อมยังสามารถยืนยันสถานที่ทำงานซึ่งช่วยให้ธนาคารสามารถตรวจสอบความน่าเชื่อถือและความสามารถทางการเงินของเราได้ ดังนั้นเราจึงสามารถใช้สลิปเงินเดือนซึ่งแสดงข้อมูลของเราและบริษัทเป็นหลักฐานการรับเงินได้ด้วย สลิปเงินเดือนเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการยื่นภาษี ในสลิปเงินเดือนจะมีหลักฐานการหักภาษีต่างๆ ในแต่ละเดือนของเราอยู่ด้วย และยังเป็นหลักฐานเงินได้ตามกฎหมายที่ผู้มีเงินได้ต้องเสียภาษี สลิปเงินเดือนส่วนนี้จึงสามารถใช้เป็นหลักฐานของเงินได้ได้ด้วยเช่นกัน ในการยื่นภาษี สลิปเงินเดือนเพื่อการสมัครงาน ในการสมัครงานบางแห่งจะมีการเรียกดูสลิปเงินเดือนเพื่อเป็นหลักฐานในการพิจารณาปรับเงินเดือนเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่กรอกตรงกับเงินได้ที่แท้จริง แต่จะมอบให้หรือไม่นั้นยังคงเป็นสิทธิ์ของผู้สมัครเช่นกัน สลิปเงินเดือนต่างหนังสือรับรองเงินเดือนอย่างไร อีกหนึ่งหลักฐานการได้รับเงินที่เป็นทางการมากกว่าสลิปเงินเดือนก็คือหนังสือรับรองเงินเดือนที่จะมีเพียงฝ่ายบุคคล หัวหน้างานหรือเจ้าของกิจการออกให้เท่านั้น โดยจะแสดงหลักฐานการทำงานตั้งแต่วันแรกที่เริ่มงาน มีอายุการทำงานมากี่ปีแล้ว เงินเดือนที่ได้รับแต่จะไม่มีการแสดงรายการที่มาการหักเงินหรือการรับเงินเพิ่มแต่อย่างใด จากบทความนี้คงได้รู้ถึงความสำคัญของสลิปเงินเดือนกันแล้ว ดังนั้นเมื่อได้รับสลิปเงินเดือนในแต่ละเดือนจึงควรเก็บไว้ให้ดี แต่หากใครที่ทำหายหรือสลิปเงินเดือนเกิดความเสียหายสามารถขอจากฝ่ายบุคคลย้อนหลังได้เช่นกัน Jobcan Payroll ออกสลิป คำนวณภาษี […]
สิ่งสำคัญที่ขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าได้นั้นย่อมเป็นพนักงานหรือทรัพยากรมนุษย์ทุกคนที่สร้างผลงานขึ้นมา แน่นอนว่ายิ่งองค์กรใหญ่มากเท่าใด การดูแลทรัพยากรมนุษย์ก็ยิ่งเป็นสิ่งสำคัญและมีเรื่องราวให้จัดการมากเท่านั้นทำให้ในยุคที่การสร้างผลลัพธ์ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญอย่างนี้ HR ต้องรับศึกหนักทีเดียว หากไม่มีตัวช่วยดีๆ คงเป็นเรื่องยากที่ HR จะสร้างผลลัพธ์ดีๆ ให้พนักงานในองค์กรสามารถมีความสุขกับการทำงานได้ วันนี้ JOBCAN จึงพาทุกคนมารู้จักกับ HR Tech ตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้องค์กรสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและรวดเร็วมากขึ้น เป็นอย่างไรบ้างไปดูกัน ทำความรู้จักกับ HR Tech HR Tech เป็นคำที่ย่อมาจาก HR Technology ซึ่งการการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ HR ให้กระบวนการทั้งหมดเดินไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น มั่นคงมากขึ้นและมีความผิดพลาดน้อยลงด้วยการใช้ระบบดิจิตอลเข้ามาช่วย ทำให้กระบวนการการประสานงานในองค์กรสามารถทำได้อย่างไร้รอยต่อ ตั้งแต่การดูแลพนักงานเข้าใหม่ เวลาการทำงาน การจัดทำเอกสารและอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งปัจจุบันนี้มี HR Tech มากมายที่สร้างขึ้นเพื่อให้พนักงานในองค์กรสามารถได้รับคุณภาพชีวิตที่ดีได้ในองค์กรของตนส่งผลให้การทำงานมีความสุขมากขึ้นและยังเพิ่มเวลาการทำงานในส่วนอื่นที่สำคัญของ HR ได้ด้วย เหตุผลที่ HR Tech กลายเป็นสิ่งจำเป็นในองค์กร เรามาดูประโยชน์ที่องค์กรจะได้หากมีการใช้งาน HR Tech และยังเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายองค์กรเลือกใช้ HR Tech ในการบริหารงานทรัพยากรต่างๆ ในองค์กรด้วย ซึ่งเราได้รวบรวมไว้ 5 ข้อหลักดังนี้ […]
ท่ามกลางวิกฤต COVID-19 หลายบริษัทมีการปรับเปลี่ยนพนักงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจำใจปลดพนักงานเก่าด้วยความจำเป็น หรือการรับพนักงานใหม่เข้ามาแทนที่ในตำแหน่งที่ขาดแคลน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับทุกๆ บริษัทคงหนีไม่พ้นเรื่องของเงินเดือน ที่ต้องปรับเปลี่ยนตามแผนกิจการและกำไรที่ได้รับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของ COVID-19 แล้วทางบริษัท… จะออกแบบระบบบริหารค่าตอบแทนพนักงานอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพสูงที่สุด ? จะจัดทำโครงสร้างเงินเดือนอย่างไรให้เหมาะสม? จะประเมินค่างานพนักงานยังไงให้เชื่อมโยงกับเงินเดือนที่ควรได้รับ? หากคุณเป็นหนึ่งในเจ้าของกิจการ หรือ HR ที่ต้องการไขข้อสงสัยเหล่านี้ และแก้ไขปัญหาเรื่องเงินเดือนให้กับกิจการของคุณ ทาง JOBCAN ขอเชิญชวนให้เข้าร่วมการสัมมนาในหัวข้อ “กลยุทธ์การบริหารเงินเดือนและค่าตอบแทนพนักงานในยุค COVID-19” รายละเอียดการสัมมนา HR มีดังนี้ วัน : พฤหัสบดี 28 เมษายน 2565 เวลา : 10:00-11:00 AM ช่องทาง : ผ่าน Google Meet*โดยจะส่งลิงค์ตามไปให้หลังจากท่านลงทะเบียนเรียบร้อย ค่าใช้จ่าย : ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมสัมมนา 20 ท่าน/รอบ หัวข้อที่จะบรรยายมีดังนี้ การกำหนดค่าตอบแทนพนักงาน ปัจจัยการกำหนดค่าตอบแทนพนักงาน แนวคิดและเทคนิคการออกแบบระบบบริหารค่าตอบแทน การกำหนดนโยบายค่าตอบแทน […]
การคัดเลือกบุคลากรที่มีศักยภาพเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะแม้ว่า HR จะคัดเลือกมาอย่างดีเพียงใดก็ยังคงมีส่วนที่มองไม่เห็น รับรู้ผ่านการพบหน้า สัมภาษณ์ไม่ได้ การรับพนักงานใหม่จึงเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสำหรับองค์กรอย่างหนึ่งเลยทีเดียว เพื่อหาวิธีลดความเสี่ยงนั้น HR จึงต้องหาวิธีการช่วยคัดเลือกซึ่งในยุคดิจิตอลแบบนี้ การดูตัวตนในโลกออนไลน์หรือ Digital Footprint จึงเป็นวิธีการหนึ่งที่ได้ผลดีทีเดียว วันนี้ JOBCAN จึงมานำเสนอความสำคัญของ Digital Footprint ที่ HR สามารถนำเอาให้ประโยชน์ได้นั้นจะได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง ทำความรู้จักกับ Digital Footprint Digital Footprint คือร่องรอยที่เราทิ้งเอาไว้เมื่อมีการเข้าใช้งานโลกออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นการเข้าเว็บไซต์ การโพสแสดงความคิดเห็นหรือแสดงความรู้สึกล้วนทิ้งร่องรอยที่สามารถตามดูได้เสมอ ทำให้สามารถติดตามได้ว่าตัวตนอีกด้านหนึ่งของผู้สมัครเป็นอย่างไรบ้าง นับเป็นประวัติอีกด้านหนึ่งได้เลย ซึ่งร่องรอยนี้กลายเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในการตรวจสอบ ค้นหาและคัดเลือกความสามารถของหลายกรณี ไม่เว้นกระทั่งการคัดเลือกพนักงานที่มีศักยภาพและมีเป้าหมายเดียวกันกับที่องค์กรต้องการด้วยเช่นกัน Digital Footprint สำคัญอย่างไร Digital Footprint หรือรอยเท้าดิจิตอลนี้กลายเป็นสิ่งสำคัญในการตรวจสอบพฤติกรรมเพราะสามารถทิ้งร่องรอยทั้งแบบที่เกิดจากความตั้งใจหรือที่เรียกว่า Active Digital Footprint และแบบที่ไม่ตั้งใจหรือ Passive Digital Footprint ซึ่งร่องรอยเหล่านี้สามารถติดตามพฤติกรรมและตรวจสอบได้ว่าเป็นใคร แน่นอนว่าสามารถตรวจสอบลึกลงไปได้มากเท่าที่ต้องการ ที่สำคัญคือไม่สามารถขจัดทิ้งได้ จึงทำให้ Digital Footprint เป็นสิ่งที่หลายองค์กรให้ความสนใจ HR […]
ในแต่ละยุคสมัยจะมีรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกันออกไปซึ่งรูปแบบการทำงานเหล่านี้นั้นจะมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยและวิถีชีวิตของผู้คนมากที่สุดเท่าที่จะเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งในยุคที่เราโดนบีบบังคับเร่งเร้าจากปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด การพัฒนาของเทคโนโลยีหรือสภาวการณ์ของโลกก็ตาม ช่วงเวลาแบบนี้ทำให้เราต้องเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านอีกครั้งอย่างรวดเร็ว นั่นคือการก้าวเข้าสู่ Digital transformation หลายคนคงสงสัยกันว่า Digital Transformation คืออะไรกันแน่ วันนี้ JOBCAN จึงมาไขข้อสงสัยว่า Digital Transformation คืออะไร แล้วมีความสำคัญอย่างไรบ้าง ทำความรู้จักกับ Digital Transformation Digital Transformation คือการนำเอาเทคโนโลยีดิจิตอลเข้ามาประยุกต์ใช้ในการดำเนินการซึ่งจะตรงตามความหมายคือการเปลี่ยนแปลง (Transformation) เข้าสู่ยุคดิจิตอล (Digital) นับเป็นการเปลี่ยนทั้งกระบวนการทำงานให้เข้าสู่ระบบดิจิตอล ลดความผิดพลาดของมนุษย์และลดต้นทุนเพราะทุกอย่างเข้าสู่รูปแบบดิจิตอลพร้อมกับปรับโมเดลธุรกิจให้สามารถเพิ่มประสบการณ์ทางดิจิตอลให้กับลูกค้าได้คุณค่าใหม่ๆ และความสะดวกสบายที่มากขึ้น ความสำคัญของ Digital Transformation Digital Transformation นั้นเป็นเรื่องที่สมควรต้องทำอย่างยิ่งสำหรับในโลกธุรกิจเพราะการเปลี่ยนแปลงรูปแบบทุกอย่างนี้จะช่วยให้ต้นทุนในการบริหารทรัพยากรควบคุมได้ง่ายมากขึ้นและยังใช้ทรัพยากรน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลา แรงงานหรือทรัพยากรด้านอื่นๆ เช่นกระดาษ หมึกพิมพ์ เครื่องเขียนอื่นๆ เป็นต้น โดยส่วนงานทั้งหมดจะมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยมากขึ้นพร้อมกับการดำเนินโดยพึ่งพาระบบดิจิตอลเข้าช่วยในการดูแลงานด้วย ทำให้ความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์มีน้อยลง สามารถนำเอาทรัพยากรที่มีไปลงทุนกับส่วนงานที่ให้ผลตอบแทนสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจได้มากขึ้น ปัจจัยสำคัญในการเข้าสู่ Digital Transformation การเข้าสู่ช่วง Digital Transformation นั้นบริษัทจะต้องเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานทั้งหมด แต่ยังมีปัจจัยหลักที่เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาสู่ Digital […]
Resume นั้นเรียกว่าเป็นด่านแรกในการแสดงตัวตนให้กับบริษัทได้เห็นว่าเรามีความน่าสนใจอย่างไรบ้างบนพื้นที่กระดาษ A4 จำนวน 1-2 หน้านี้จะทำการนำเสนอตัวตนของผู้สมัครเบื้องต้น ซึ่งเรียกว่าเป้นด่านสำคัญที่สุด หากสร้างความน่าสนใจไม่มากพอจะทำให้โอกาสที่จะได้เข้าสู่รอบถัดไปเป็นไปได้ยากแล้ว วันนี้ JOBCAN จึงมาบอกเคล็ดลับการเขียน resume ว่าควรจะต้องเขียนอย่างไร ให้โดนใจ hr ข้อมูลสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการเขียน resume การเขียน resume คือการแนะนำตัวเองเบื้องต้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใส่ข้อมูลพื้นฐานของผู้สมัครให้ครบถ้วน เพื่อให้ hr สามารถพิจารณาได้ หากใส่ข้อมูลส่วนนี้ไม่ครบย่อมถูกปัดตกอย่างแน่นอน ข้อมูลส่วนตัว สำหรับการเขียน resume นั้นการบอกข้อมูลส่วนตัวเป็นการแนะนำให้ hr สามารถทำความเข้าใจกับตัวตนของเราได้คร่าวๆ ว่ามีชื่ออะไร เรียนจบจากที่ใด ซึ่งข้อมูลส่วนตัวบางอย่างอาจสร้างความน่าสนใจให้กับการสมัครงานในบางตำแหน่งได้ เช่น เป็นคนชอบแต่งหน้า มาสมัครเป็นนักรีวิวเครื่องสำอางค์ เป็นต้น ทักษะและความสามารถ นี่คือสิ่งสำคัญมากในการเขียน resume เพราะสิ่งที่ hr ให้ความสนใจคือทักษะที่เราเคยเรียนรู้หรือได้ใช้มานั้นมีอะไรบ้าง เป็นทักษะที่บริษัทต้องการหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น soft skill หรือ hard skill ก็ตาม ซึ่งบางครั้งทักษะความสามารถบางอย่างของเราอาจตรงกับความต้องการของบริษัทพอดี ก็สามารถได้เข้ามาสัมภาษณ์กันต่อ ดังนั้นจึงควรเขียนทักษะต่างๆ […]
หากกล่าวถึงทักษะการสื่อสารแล้วหลายคนอาจไม่มั่นใจเท่าใดนักว่าทำได้ดีหรือไม่ แต่ในการใช้ชีวิตนั้นปฏิเสธไม่ได้เลยคนที่มีทักษะการสื่อสารที่ดีนั้นย่อมได้เปรียบมากกว่า โดยจะเห็นได้ว่าการสื่อสารที่ดีสามารถสร้างประสิทธิภาพการทำงานได้มากกว่าและยังพาองค์กรไปได้ไกลมากกว่า ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าหลายองค์กรที่ประสบความสำเร็จนั้นมีเทคนิคการสื่อสารภายในองค์กรที่ดี วันนี้ JOBCAN จึงนำเอาทริคการสื่อสารซึ่งมีองค์ประกอบ 7 อย่างด้วยกันมาฝาก แต่ก่อนอื่นเรามาดูความสำคัญในการสื่อสารว่าทำไมองค์กรควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้กัน เหตุผลที่องค์กรควรให้ความสำคัญกับการสื่อสาร เราจะเห็นได้ว่ามีหลายองค์กรที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ แต่บางองค์กรที่มีความคิดหรืออุดมการณ์ที่ดีกลับไปได้ไม่ไกลนัก ส่วนหนึ่งย่อมเป็นเพราะการสื่อสารที่ไม่ดีพอจะทำให้พนักงานหรือคนในองค์กรได้เข้าใจว่าทิศทางขององค์กรจะไปทางใด หรือกล่าวอีกอย่างคือพนักงานไม่ได้เข้าภาพรวมถึงสิ่งที่เห็นไปในทางเดียวกัน ทำให้เกิดปัญหาในการทำงานและอาจกระทบถึงความสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมงาน หัวหน้าลูกน้อง ได้เช่นกัน หลักการ 7C องค์ประกอบความสำเร็จในการสื่อสาร การสื่อสารนั้นไม่ได้จำกัดเพียงการพูดเท่านั้นแต่ยังเป็นเรื่องของการนำเสนองาน การเขียน การออกความคิดเห็นและอื่นๆ อีกมากมาย แต่เราสามารถใช้หลักการเดียวกันในการพัฒนาให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ โดยเป็นหลักการ 7C ดังนี้ ชัดเจน (Clear) ความสำคัญของการสื่อสารคือการทำให้ทุกคนเข้าใจตรงกันอย่างชัดเจนว่าสิ่งที่สื่อสารออกมานั้นมีใจความสำคัญอย่างไร โดยไม่จำเป็นต้องนำไปตีความหรือทำให้เกิดการตีความไปเป็นอย่างอื่นได้ ดังนั้นผู้สื่อสารควรเรียบเรียงสารของตนให้ตรงกับเป้าหมายในการสื่อสารอย่างชัดเจนที่สุดเสียก่อน ถูกต้อง (Correct) ความถูกต้องของข้อมูลนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากเพราะหากข้อมูลที่สื่อสารออกไปผิดพลาดหรือไม่ใช่ข้อเท็จจริงจะส่งผลให้ความน่าเชื่อถือของผู้สื่อสารลดลงและความเคลือบแคลงกังขาในสารของผู้สื่อสารนั้น ทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้ ครบถ้วน (Complete) ในแต่ละการสื่อสารจะมีเป้าหมายสำคัญที่ต้องการจะสื่อออกไปให้ผู้รับสารรับทราบ โดยสำหรับ 7C ในหลักความครบถ้วนนี้ การสื่อสารจะต้องมีข้อมูลครบถ้วนเพื่อให้เกิดผลตามเป้าหมาย ไม่ให้ผู้รับสารเกิดความสงสัย เพราะการมีข้อมูลที่ครบถ้วนจะช่วยให้การตัดสินใจเกิดความรอบคอบมากขึ้นได้ หนักแน่นมีสาระ (Concrete) หลักการ 7C ว่าด้วยความหนักแน่นมีสาระนี้หมายถึงการเฉพาะเจาะจงเรื่องที่ต้องการสื่อสาร โดยไม่ควรสื่อสารเรื่องราวให้กว้างเกินไปจนจับประเด็นไม่ได้ เน้นความหนักแน่นมีการยกเหตุผลข้อมูลเข้ามาประกอบอย่างจริงจังเพื่อเพิ่มความมีสาระของเนื้อหาและความน่าเชื่อถือของข้อมูลด้วย กระชับ […]
สถานการณ์โรคระบาดอย่างโควิด-19 ยังคงมีการระบาดอยู่บ้างแต่ก็นับได้ว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้นบ้างแล้ว หลายคนได้รับวัคซีนแล้วจึงทำให้หลายองค์กรเริ่มพิจารณาการกลับมาทำงาน on site หรือกลับมาเข้าบริษัทเหมือนเดิม แม้ว่าสถานการณ์จะดูเหมือนดีขึ้นแต่การระบาดของโรคก็ยังคงอยู่ มีเพียงความรุนแรงที่ลดลง ด้วยสถานการณ์ที่ต้องเฝ้าระวังกันแบบนี้ บริษัทควรเตรียมความพร้อมให้พนักงานกับมาทำงาน on site อย่างไรได้บ้าง วันนี้ JOBCAN จึงมานำเสนอ 4 ข้อที่ควรทำเพื่อให้องค์กรสามารถเรียกพนักงานกลับมาโดยลดความเสี่ยงลงได้บ้าง เพิ่มมาตรการการรักษาความสะอาดและการฆ่าเชื้อ สิ่งสำคัญเมื่อมีการเกิดโรคระบาดคือการรักษาความสะอาด โดยเฉพาะกับโควิดที่สามารถแพร่เชื่อได้ง่ายผ่านทางการหายใจและการสัมผัส ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญกับการดูแลเรื่องความสะอาด สุขอนามัยที่ดี และยิ่งไปกว่านั้น จะต้องเพิ่มกระบวนการฆ่าเช้อเข้ามาด้วย โดยปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีที่สามารถตั้งเวลาการพ่นยาฆ่าเชื้อได้ อีกสิ่งหนึ่งที่บริษัทสามารถเตรียมความพร้อมได้คือการสร้างข้อตกลงระหว่างพนักงานบริษัทเพื่อลดความเสี่ยงด้านต่างๆ เช่นการดูแลอุปกรณ์ส่วนกลาง สร้างกฎการอยู่ร่วมกันในบริษัท และอาจมีการนำเอาเทคโนโลยีตัวช่วยต่างๆ เข้ามาช่วยงานเช่นการไลฟ์สด การใช้วิดีโอหรือเครื่องมือต่างๆ แทนการพบหน้าหรือสัมผัสกัน แบ่งกลุ่มการทำงานเพื่อรักษาระยะห่าง การเข้าทำงานแบบ on site ทั้งหมดพร้อมกันในบริษัทอาจเป็นความเสี่ยงที่มากเกินไป บริษัทสามารถแบ่งพนักงานออกเป็นกลุ่มโดยจัดวันหรือเวลาให้เข้ามาทำงานแบบ on site ไม่พร้อมกัน เพื่อสร้างระยะห่างระหว่างพนักงานให้มากขึ้นและลดความหนาแน่นในองค์กร ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยให้สามารถประสานงานได้ง่ายกว่าการทำงานรูปแบบ Work from home ได้ แต่ยังคงลดความเสี่ยงของการติดโรคได้ด้วย ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเพื่อลดการสัมผัส การทำงานในรูปแบบเก่าเน้นการกระทำเป็นสำคัญซึ่งเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องสัมผัสกับสิ่งต่างๆ ตลอดเวลาอย่างเช่นการเข้างาน การเดินเอกสาร เป็นต้น ซึ่งกลายเป็นการสร้างความเสี่ยงให้กับร่างกายไปแล้วในปัจจุบัน […]
ค่าตอบแทนนับเป็นวัตถุประสงค์หลักในการทำงานของพนักงานทุกคนเลยทีเดียว HR ที่รับหน้าที่เกี่ยวกับค่าตอบแทนจึงต้องทำงานให้รอบคอบมากที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังสามารถเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ ทำให้ Hr สาย payroll ต้องรอบคอบมากขึ้น หรืออาจมองหาตัวช่วยที่จะแบ่งเบาหน้าที่ให้เกิดความผิดพลาดได้น้อยลง แต่ตัวช่วยแบบใดกัน ที่จะทำให้ความท้าทายของ Hr สาย payroll นั้นทำงานได้สะดวกขึ้นบ้าง วันนี้ Jobcan จึงนำเอา 4 ความท้าทายที่ hr payroll จะต้องเผชิญแล้วเราควรเลือกตัวเลือกอย่างไรบ้าง hr payroll ต้องเก็บครบทุกรายละเอียด หน้าที่หนึ่งของ hr payroll คือการคำนวณวันเวลาในการทำงานของพนักงานทุกคนในบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการเข้างานปกติ การทำงานล่วงเวลา หรือการลาหยุด ลาป่วยก็ตาม hr payroll จะต้องนำมาคิดคำนวณทั้งหมดเพื่อนำไปคิดเงินเดือนต่อไป นับเป็นงานที่กินเวลาอย่างมากทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ปัญหาอีกอย่างที่ hr payroll จะต้องเผชิญคือความน่าเชื่อถือของบันทึกเวลาการทำงานเพราะการบันทึกเวลาอย่างการตอกบัตรนั้นสามารถทำแทนกันได้ ทำให้ต้องหาวิธีตรวจสอบให้แน่ชัดอยู่เสมอ สำหรับงานที่กินเวลาและมีปัญหาในด้านความน่าเชื่อถือแบบนี้ ทำให้ hr payroll ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้เกิดความยุติธรรมทั้งสำหรับองค์กรและพนักงาน แต่หากเราสามารถใช้ตัวช่วยที่มีความน่าเชื่อถือในการบันทึกเวลาเฉพาะบุคคลเช่นการสแกนใบหน้า การสแกนลายนิ้วมือหรือการใช้ E-signature ที่สามารถเชื่อถือได้ในการยืนยันตัวตนเพื่อเข้างานพร้อมกับมีการคำนวณเวลาโดยอัตโนมัติ ปัญหานี้ก็สามารถแก้ไขได้แล้ว […]
ในช่วงเวลาที่เทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นโดยเฉพาะกับการใช้งานในองค์กรนั้นย่อมมีทางเลือกต่างๆ มาให้เหล่า Hr ต้องพิจารณาโดยเฉพาะกับแอปตอกบัตรซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการบริหารองค์กรต่างๆ ทำให้ Hr จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้พนักงานในองค์กรสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย โดยวันนี้ JOBCAN จะมานำเสนอข้อมูลที่เก่ยวกับแอปตอกบัตรที่ Hr จะต้องเลือกสรรให้เหมาะสมกับองค์กร นั่นคือการใช้แอปตอกบัตรแบบ Moblie Application หรือการใช้แอปตอกบัตรแบบ Web application จะดีกว่ากัน Mobile Application สำหรับแอปตอกบัตร เรามาทำความรู้จักกับ Mobile Application กันก่อน นั่นคือซอฟต์แวร์ที่เน้นการใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต มีการออกแบบฟังก์ชันการใช้งานให้สะดวกสบายมากขึ้น อย่างที่เราคุ้นเคยกันดีก็คือระบบซื้อของออนไลน์ ระบบสั่งอาหารออนไลน์ เป็นต้น โดยส่วนใหญ่แล้วองค์กรที่ใช้ Mobile App จะเป็นองค์กรที่พัฒนาขึ้นมาเองมากกว่าเพราะต้องทำความรู้จักผู้ใช้งานและมีการปรับปรุงพัฒนาระบบอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดตามมา ดังนั้นสำหรับ Hr Application แล้ว การมีแอปตอกบัตรติดมือถือก็เป็นเรื่องที่สะดวกสบายผู้ใช้งานอย่างพนักงานในบริษัทเพียงแต่ด้วยระบบงานที่มีความสำคัญอาจทำให้ต้นทุนในการสร้างแอปตอกบัตรนี้ปรับสูงขึ้นตามไปด้วย จึงเหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่มากกว่า Web Application สำหรับแอปตอกบัตร สำหรับ Web Application นั้นคือการนำ Application ขึ้นมาเปิดบนเว็บไซต์ผ่านบราวเซอร์ต่างๆ ได้เลยจึงสามารถใช้งานได้ทันที ไม่จำเป็นต้องมีการติดตั้ง จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายอุปกรณ์เรียกว่าทุกอุปกรณ์ที่สามารถเปิดบราวเซอร์ได้สามารถใช้งาน Web Application […]