จากบทความก่อนหน้านี้ของ Jobcan เกี่ยวกับเป้าหมายในการทำงานของคนรุ่นใหม่ ที่นอกจากการตั้งเป้าหมายของการเติบโตในเรื่องของค่าตอบแทนแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ นั่นคือเรื่องของพัฒนาการในเรื่องงาน ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นคนทำงานรุ่นใหม่หรือรุ่นเก่า ก็ควรที่จะนึกถึงเรื่องเหล่านี้ควบคู่กันไปเสมอ เพื่อผลลัพธ์การทำงานที่ดี ในบทความที่แล้วเราพูดถึงคน Gen Y (พ.ศ.2523-2540 หรือ ปี 1980-1994) ที่กำลังเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในตลาดงานตอนนี้ เพราะพวกเข้าได้ก้าวเข้าสู่ช่วงอายุที่จะได้ทำงานครบเกือบทั้งเจเนอเรชันแล้ว ที่สำคัญยังกระจายตัวอยู่ตามอุตสาหกรรมต่างๆ และอยู่ในตำแหน่งการทำงานเกือบทุกระดับตั้งแต่พนักงานใหม่ ผู้จัดการ ผู้บริหาร ไปจนถึงเจ้าของกิจการ ลองคิดภาพคนเจนวายอายุย่างเข้า 30 หลายๆคนที่เริ่มมีกิจการ มีธุรกิจหรือบริษัทเป็นของตัวเอง ไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องความมั่นคงหรือบอกว่าจะดำเนินธุรกิจไปได้นานแค่ไหน แต่การที่คนเจนนี้ตั้งหน้าตั้งตาที่จะพัฒนาตนเองให้ประสบความสำเร็จให้ได้เร็วที่สุดเพื่อให้ได้มีเวลาไปใช้ชีวิตในแบบที่ตั้งเป้าหมายไว้ นั่นก็เป็นจุดหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าคนรุ่นนี้ไม่ได้มีแต่เรื่องของความอยากได้อยากมี ไม่เอาไหน เปลี่ยนงานบ่อย เอาใจยาก ลองมองในมุมคนทำงานเหมือนกันดูว่าอะไรที่ทำให้คนทำงานรุ่นนี้มีบุคลิกการทำงานหรือลักษณะแนวคิดต่อการทำงาน และทัศนคติต่อความเป็น “คนเก่ง” ของคนรุ่นนี้ก็แตกต่างไปจากคนรุ่นก่อน ถ้าจะมองหาเพื่อนร่วมงานมากความสามารถ คนเก่ง อาจไม่ได้วัดกันได้แค่เงินเดือน ข้ามมาพูดถึงเรื่องของการจัดการเงินเดือน พนักงานในปัจจุบัน HR หลายๆ บริษัทอาจจะมีนโยบายในการใช้ Head Hunter ให้ช่วยหาคนเก่ง ๆ มาทำงานให้ หรือแม้แต่การหาคอนเนคชันในวงการเพื่อจะได้การแนะนำคนที่จะมาช่วยงานในบริษัทคุณ ดังนั้นโครงสร้างเงินเดือนหรือนโยบายการจ่ายค่าตอบแทนให้พนักงานก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องให้รายละเอียด แน่นอนว่าเราไม่ได้บอกว่าคนทำงานเดี๋ยวนี้เห็นเงินมาก่อน แต่ถ้าหากคุณมีค่าตอบแทนหรือเงื่อนไขที่น่าสนใจ […]
เจาะลึกความสำเร็จของคนทำงานแต่ละคน ก็ตั้งเป้าหมายกันไว้คนละอย่าง บางคนหากพูดถึงความสำเร็จในเรื่องงานอาจนึกไปถึงเรื่องของการมีหน้าที่การงาน ตำแหน่งสูงๆ ได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้า เป็นผู้บริหารในบริษัท ส่วนความสำเร็จเรื่องงานของบางคนอาจเป็นการได้ทำงานในบริษัทที่มีสภาพแวดล้อมแบบที่ตัวเองต้องการ หรือว่าอาจจะเป็นการทำงานในแผนกหรือตำแหน่งที่ได้รับงานทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เช่น คนที่ชอบทำงานออกแบบหรือดีไซน์ แต่อาจจะทำงานอยู่ในบริษัทที่ขายโปรดักส์อะไรก็ได้ แต่ถ้าคนทำกราฟฟิกมีความสุขและแพชชันกับงานที่ทำ ไม่ว่าจะเป็นโปสเตอร์หรืองานกราฟฟิกอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับงาน และยังมีความก้าวหน้าใน career path ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่ง หรือหากพูดถึงเรื่องของความสำเร็จ บางคนอาจให้ความสนใจไปที่เรื่องอื่นมากกว่าเรื่องงาน ก็เป็นไปได้เหมือนกัน ซึ่งเรื่องของความสำเร็จหรือสไตล์การทำงานนี้ระหว่างคนทำงานเมื่อก่อนกับคนรุ่นใหม่ย่อมมีความแตกต่างกันอย่างแน่นอนและเมื่อคนทำงานแต่ละคนมีมุมมองต่องาน ต่อความสำเร็จแตกต่างกัน ก็เป็นภาระของคนที่มีหน้าที่ดูแลงานบริหารบุคคล ที่จะต้องทำให้พนักงานหรือคนทำงานทุกคนมองเห็นภาพความสำเร็จ เป้าหมายในการทำงาน ทั้งเรื่องของเนื้องานและเรื่องความก้าวหน้าในค่าตอบแทนอย่างเงินเดือนด้วยเช่นกัน และที่เป็นสิ่งที่ HR ยุคใหม่ ต้องเตรียมรับมือ สำหรับในบทความนี้ Jobcan อยากจะมาพูดถึงสไตล์การทำงานของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน ต่อเนื่องจากเรื่องของนิยามความสำเร็จของแต่ละ Generation โดยเฉพาะกับคน Gen Y มาดูกันว่าคนทำงานที่เข้าสู่ตลาดงานทั้งที่มีอายุงานตั้งแต่ 3 ถึง 10 ปี ตั้งแต่ระดับพนักงานไปจนถึงหัวหน้างาน ว่าคนใน Gen เดียวกันแต่ต่างช่วงวัยของอายุ ซึ่งในบางครั้งคนเจนเดียวกันนี่แหละที่ทำงานอยู่ในองค์กรเดียวกัน แต่คนละตำแหน่ง คนละแผนก ก็เกิดความไม่เข้าใจในความคิดหรือทัศนคติกันเอง ซึ่งการทำให้สมาชิกในองค์กรมีความเข้าใจในสไตล์การทำงาน มุมมองต่องาน เพื่อให้ไปสู่เป้าหมายพร้อมกันได้ทั้งทีม ย่อมเป็นเรื่องสำคัญของงานบริหารบุคคลที่ไม่ว่าจะองค์กรเล็กหรือองค์กรใหญ่ก็ควรให้ความสนใจ […]
ก้าวสู่ยุคของ Smart Organization ที่บริษัทต่างๆ หันมาใส่ใจในการบริหารทรัพยากรการทำงานภายในที่ทำงานให้สามารถลดต้นทุน หรือการหาแนวทางในการลดเวลาทำงานลง เพื่อจะทำให้พนักงานหรือบริษัทเองสามารถลดต้นทุนการทำงานในหลายๆ มิติ เช่น ค่าตอบแทนที่จ่ายตามเวลาหรือชั่วโมงทำงาน ในบางบริษัทอาจมีนโยบายในการจัดการต้นทุนการใช้อุปกรณ์สำนักงาน เช่น การใช้กระดาษในการจัดทำเอกสาร การใช้แฟ้มเอกสารหรืออุปกรณ์ ชั้นวาง ในการจัดเก็บงานต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์เครื่องเขียนหรืออุปกรณ์สำนักงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องการการจัดการเอกสาร ซึ่งในปัจจุบันก็มีระบบการจัดการเอกสาร ที่สามารถจัดการเอกสารออนไลน์ได้ และออกแบบลำดับการสร้างและอนุมัติเอกสาร สามารถวางขั้นตอนหรือโฟลว์ของเอกสารได้ตามความสะดวกหรือตามระบบเอกสารเดิมของท่านที่เคยใช้งาน โดยไม่ต้องมานั่งพิมพ์เอกสาร เดินเอาเข้าแฟ้มไปเสนอ และรอจนกว่าจะมีการอนุมัติตามลำดับ ซึ่งต้องใช้เวลาในการติดตามสถานะของเอกสารว่าหัวหน้าจะเซ็นต์อนุมัติหรือยัง ระบบดังกล่าวจึงเป็ตัวช่วยในการลดต้นทุนทั้งเรื่องของเวลาและการใช้ทรัพยากรในออฟฟิศ ระบบการจัดการเอกสารออนไลน์ การเรียงลำดับขั้นตอนการส่งและอนุมัติเอกสาร หรือโปรแกรม workflow คืออะไร จะดีแค่ไหนถ้าคุณสามารถจัดการงานเอกสารที่กองรวมกันในสำนักงานได้ โดยไม่ต้องใช้พื้นที่บนโต๊ะหรือตู้ใหญ่ๆในการจัดเก็บเอกสารอีกต่อไป จัดการเอกสารผ่านระบบ workflow คือ ระบบการจัดการเอกสารออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ การจัดการเอกสารในสำนักงานด้วยระบบ Workflow ในปัจจุบันก็เริ่มมีหน่วยงานที่นำมาใช้งานกันอย่างแพร่หลาย เพราะการออกเอกสารหรือสร้างแบบฟอร์มในปัจจุบันแม้จะเป็นเอกสารที่ใช้งานในองค์กรเดียวก็อาจมีความแตกต่างกันในเรื่องของรายละเอียดหัวข้อในเอกสาร รวมไปถึงโฟลว์การอนุมัติเอกสารที่อาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละแผนก เพราะโครงสร้างของทีมหรือแผนกงานในบางที่ก็ไม่เหมือนกัน โปรแกรม workflow จึงทำให้การทำงานเอกสารสามารถทำได้ง่าย การส่งคำขอ และการอนุมัติเอกสาร ซึ่งในปัจจุบันระบบจัดการเอกสารออนไลน์หลายๆ ระบบสามารถสร้างแบบฟอร์มเอกสารได้หลายรูปแบบ สร้างโฟลว์อนุมัติ และแยกโฟลว์การอนุมัติได้ตามลำดับขั้นหรือตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจในการอนุมัติเอกสาร สามารถส่งคำขอ / […]
ด้วยสภาพการทำงานในปัจจุบัน หลายๆ บริษัทเริ่มมีนโยบายในการลดเวลาการทำงาน และลดปริมาณการใช้กระดาษภายในองค์กร ทั้งด้วยปัญหาสิ่งแวดล้อมกับปริมาณการใช้กระดาษในประเทศไทย และเรื่องของการลดต้นทุนในการทำงาน ที่หลายๆ แห่งเริ่มย้ายงานเอกสารที่เคยทำใส่แฟ้มเอกสารหนาๆ เข้าไปอยู่ในระบบออนไลน์มากขึ้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการจัดเก็บ และเรียกดูเอกสารที่รวดเร็วจากการ search ค้นหาเอกสารในระบบ และการจัดการเอกสารโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาในการจัดเก็บหรือเดินไปเดินมาเพื่อส่งเอกสารหรือยื่นเอกสารรออนุมัติ ทำให้ประหยัดทั้งเวลาและทรัพยากรการทำงาน การทำงานเอกสารสำหรับงานบางประเภทในปัจจุบันนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและมีลำดับขั้นตอน สำหรับหน่วยงานหรือบริษัทที่ยังคงมีการจัดการเอกสารแบบเดิมๆ คือการปรินท์เอกสารและใส่แฟ้มเพื่อเสนอเจ้านาย หรือการออกเอกสาร Memo ต่างๆ ภายในองค์กร รวมไปถึงลำดับขั้นตอนของการอนุมัติเอกสารที่บางบริษัทอาจต้องมีการอนุมัติหลายระดับ จึงทำให้งานเอกสารนั้นเป็น task งานที่ยุ่งยาก และยิ่งในสมัยนี้ที่คนทำงานส่วนใหญ่มักจะมีการจัดการการทำงานของตัวเองให้อยู่บนแพลทฟอร์มออนไลน์ หรือ On Cloud กันแล้ว การจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ หรืองานเอกสารออนไลน์จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับการทำงานแบบคนยุคใหม่ ในบทความนี้ Jobcan จึงอยากจะมาแนะนำระบบการจัดการเอกสารหรือระบบ workflow ที่จะทำให้การจัดการงานเอกสารในบริษัทของคุณง่ายขึ้น มารู้จักกันว่าระบบ workflow คืออะไร แล้วช่วยงานคุณได้อย่างไร เบื่อไหม? กับการจัดการเอกสารกองโตในที่ทำงาน และการเดินเอกสารที่วุ่นวาย กองเอกสารหรือแฟ้มเอกสารจำนวนมากในออฟฟิศอาจจะเป็นเรื่องที่เห็นปกติชินตาสำหรับคนทำงานเมื่อหลายปีก่อน แต่เดี๋ยวนี้หลายๆ บริษัทก็เริ่มเปลี่ยนการทำงานเอกสารจากแบบเดิมที่เป็นการใช้เอกสารบนกระดาษที่ต้องปริ้นท์ออกมา ทำให้ต้องเสียเวลากับการจัดการเอกสาร และยังจะต้องใช้เวลาในการนำเสนอหรือยื่นเอกสารในขั้นตอนต่างๆ อีก ยิ่งเป็นเอกสารที่ต้องใส่แฟ้มหรือเอาไปวางเรียงกัน บางครั้งถ้าไม่ทำ Memo เตือนตัวเองไว้ […]
พูดกันถึงเรื่องระยะห่างระหว่างวัย หรือความต่างของ Generation เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ชอบสร้าง topic การพูดคุยหรือแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ โดยหนึ่งในข้อถกเถียงหลายๆครั้งจะมีเรื่องของความคิดเห็นหรือความแตกต่างทางความคิดระหว่างคนแต่ละช่วงวัยหรือคนแต่ละ Gen คนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ ว่ามีแนวคิดที่แตกต่างกันในหลายๆเรื่อง ด้วยความที่คนแต่ละช่วงวัยมีประสบการณ์ชีวิต และผ่านเหตุการณ์ในช่วงเวลาที่เติบโตมาแตกต่างกัน สภาพสังคม เศรษฐกิจ และค่านิยม ในบทความนี้ Jobcan จะกล่าวถึงค่านิยมของคนแต่ละ Generation ว่าแต่ละช่วงวัย ให้ความหมายและความสำคัญกับคำว่า ”ความสำเร็จ” เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ความเหมือนหรือแตกต่างนี้จะทำให้คนทุกวัยอยู่ร่วมกันได้อย่างเข้าอกเข้าใจและไม่มีปัญหาขัดแย้งซึ่งกันและกัน เพราะเรื่องของความสำเร็จและความมั่นคงของชีวิตเป็นเรื่องที่หลายคนวางแผนและให้ความสำคัญ ดังนั้นหากเราเข้าใจถึงการตั้งเป้าหมายหรือความคิดของคนหลาย Gen ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคม ก็จะทำให้เราเข้าใจถึงพฤติกรรมหรือเหตุผลของเขาเหล่านั้นว่าเหตุใดจึงมีการกระทำ คำพูด หรือความคิดในเรื่องต่างๆที่ทั้งเหมือนและแตกต่างกับเราที่อยู่คนละช่วงวัย Gen-B คน Gen-B หรือคนรุ่น Baby Boomer (คนที่เกิดในช่วงปี พ.ศ. 2489-2507) เป็นเจนเนอเรชั่นที่เติบโตมาในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง เป็นช่วงที่โลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคพัฒนาอุตสาหกรรม ดังนั้นคนในเจนนี้จึงมีการแข่งขันสูง ต้องทำงานหนัก และมีค่านิยมในการอดทนอดกลั้นต่อความยากลำบาก ประหยัด รอบคอบ และยึดถือเรื่องความซื่อสัตย์ กตัญญูรู้คุณ และเรื่องของจริยธรรม ให้ความสำคัญกับการมีอนาคตที่มั่นคง ความเจริญก้าวหน้าและจริงจังกับชีวิต […]
หลายคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องของสมการความสุข การสร้างสมดุลให้ชีวิต หรือการวางแผนชีวิตเพื่อให้เกิดความพอดีระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะความสมดุลของชีวิตสำหรับมนุษย์เงินเดือน รวมถึงเรื่องของการรักษาสุขภาพ ที่ปัจจุบันเทรนด์การออกกำลังกายและการทานอาหารเพื่อสุขภาพก็เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น จะเห็นได้ว่าชาวออฟฟิศส่วนใหญ่เริ่มหาแพ็กเกจออกกำลังกายพร้อมเทรนเนอร์ และบางคนก็ยังให้เทรนเนอร์จัดโปรแกรมอาหารให้อีกด้วย เรียกว่าเรื่องของ Work-Life Balance ในปัจจุบัน ไม่ใช่แค่การปรับสมดุลชีวิตเรื่องของการทำงานและชีวิตส่วนตัวหรือกิจกรรมสนุกๆเท่านั้น แต่หมายถึงการบาลานซ์ชีวิตในเรื่องของสุขภาพและจิตใจด้วย ทำงานอย่างไรไม่ให้เครียดจนเกินไป และยังได้สุขภาพที่ดีเป็นกำไรชีวิตอีกด้วย Work Life Balance กับมนุษย์เงินเดือน สำหรับมนุษย์เงินเดือนหลายคน อาจเคยมีทัศนคติว่าการทุ่มเทกับงานอย่างเต็มที่จะทำให้ชีวิตเราก้าวไปสู่ความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว บางคนอาจเชื่อว่าเราสามารถปรับสัดส่วนของเรื่องงานกับชีวิตส่วนตัวให้พอดีกันได้โดยไม่ต้องทุ่มเทหรือสุดโต่งกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป หรือบางคนโดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือน Gen Y หรือ Gen Z ที่อาจจะมองว่า หากเราวางแผนการทำงานอย่างดี เราไม่จำเป็นต้องใช้เวลามากในการทำงาน แต่สามารถจัดการ task งานให้เสร็จได้ก่อนหรือตามกำหนด แล้วเอาเวลาที่เหลือไปหาความสุขให้ตัวเองได้โดยไม่เสียการเสียงาน เรียกว่าดูกันที่ end result เป็นหลัก ไม่จำเป็นว่าต้องทำงาน 8 ชั่วโมง มีเวลาให้สังคมหรือกิจกรรมอื่น 8 ชั่วโมง แล้วเข้านอน 8 ชั่วโมงเสมอไป ในขณะที่คนส่วนใหญ่มักจะให้ความสำคัญกับ “ความสุข” ในชีวิตส่วนตัว ขณะเดียวกันความสุขในการทำงานก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่จำเป็นจะต้องตามหาให้เจอ ไม่ใช่แค่การตามหาความสุขของชีวิต ว่าเราชอบอะไร […]
จากบทความก่อนหน้านี้เรื่อง HR 4.0 จะพอเห็นได้ว่าในปัจจุบันนั้น ฝ่ายบุคคลหรือคนที่ทำงานด้านทรัพยากรมนุษย์ในองค์กร จะต้องตื่นตัวและเรียนรู้วิธีการควบคุมและดูแลพนักงานของตัวเอง ทั้งเรื่องของการทำงาน และความสุขในการใช้ชีวิตในที่ทำงาน ซึ่งหลายๆ ครั้งเราอาจเคยได้ยินว่า HR ยุคดิจิตอล ในยุคนี้ต้องเร่งปรับตัวให้ทันทั้งเทคโนโลยี ระบบ function ต่างๆ ให้ fit in กับบริบทภายในองค์กร รวมถึงการมาถึงของพนักงานรุ่นใหม่ ที่อาจจะมาพร้อมชุดความคิดและอุดมการณ์ที่ต่างไปจากพนักงานรุ่นก่อนๆ ที่เราเคยดูแลหรือเคยร่วมงานด้วย แน่นอนว่านี่ไม่ใช่การมาถึงของพนักงานในแผนกอื่นหรือตำแหน่งอื่นๆเท่านั้น แม้แต่ HR เอง ก็ต้องยอมรับว่า มีน้องๆจบใหม่ หรือคนรุ่นใหม่ที่ทำงานสายนี้ เพิ่มเข้ามาในตลาดมากขึ้น ดังนั้นคงปฏิเสธไม่ได้ว่า การปรับตัวให้สามารถทำงานเข้ากับคนรุ่นใหม่ไม่ได้เป็นเฉพาะบริบทของ HR กับพนักงานทั่วไป แต่รวมถึงการปรับตัวกับ HR รุ่นใหม่กันเองด้วย ดังนั้น เรื่องของ Generation จึงเป็น topic ที่หลายคนพูดถึงสำหรับการทำงานในยุคนี้ โดยเฉพาะยุคที่คนทำงานส่วนใหญ่เป็นคน Gen Y และรวมถึง Gen Z เพราะในปัจจุบัน มีบริษัทหรือธุรกิจใหม่ๆ ที่เติบโตขึ้นมาในช่วงที่เทคโนโลยีต่างๆ พัฒนาขึ้น ทั้งสาย […]
เมื่อความสุขของพนักงานคือส่วนสำคัญในเป้าหมายของ HR หลายๆ องค์กรในปัจจุบันจึงมีความเชื่อว่าเมื่อพนักงานมีความสุขกับการทำงานย่อมได้ผลลัพธ์ที่ดีตามมา HR กับการบริหารพนักงานภายในองค์กรจึงเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโต และต้องสามารถดึงศักยภาพของพนักงานออกมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด การวางแผนการบริหารพนักงานภายในองค์กร จึงเป็นส่วนที่ HR ควรให้ความสำคัญอย่างมากเพื่อที่จะสามารถบริหารพนักงาน ให้เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัท และพนักงานต้องได้รับประโยชน์สูงสุดตอบแทนการทำงานเพื่อองค์กร ด้วย 7 ขั้นตอนในการบริหารพนักงานให้มีความสุขเมื่อต้องอยู่ร่วมกันในองค์กรต่อไปนี้ 1.สำรวจความพึงพอใจในการทำงาน HR จำเป็นจะต้องคอยบริหารพนักงานในองค์กร ดังนั้นการสำรวจความพึงพอใจของพนักงานในการทำงานจึงสำคัญอย่างมาก เพราะการทราบปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในองค์กร เมื่อเกิดปัญหา HR จำเป็นต้องเข้าไป Take Action หรือมีส่วนในการช่วยแก้ไขปัญหาของพนักงาน ดังนั้นการสำรวจความพึงพอใจ จะทำให้การทำงานของ HR ง่ายขึ้น เพราะ HR จะได้ข้อมูลจากพนักงานโดยตรง 2. การประเมินการทำงานของพนักงาน เมื่อพนักงานมีการทำงานไปซักระยะนึง HR ควรมีการจัดทำแบบประเมินการทำงานของพนักงานแต่ละท่าน แบบประเมินนี้จะสามารถช่วยในการบริหารพนักงาน จัดการระบบ เพื่อที่จะพัฒนาการทำงาน หรือแนวคิดของพนักงานท่านนั้นๆ และข้อมูลจากแบบประเมินจะได้ใช้ประโยชน์ทั้งกับ HR เอง และหัวหน้างานหรือแผนกนั้นๆ ด้วย การนำผลการประเมินมาวิเคราะห์และหาแนวทางการทำงานที่เหมาะสมกับพนักงาน ก็จะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรได้มากขึ้น 3.วางแผนการสื่อสารภายในองค์กร HR คือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้พนักงานในองค์กรมองเห็นเป้าหมายและวัตถุประสงค์ไปในทางทิศเดียวกันได้ ซึ่งสิ่งสำคัญในการบริหารพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพคือต้องทำให้พนักงานเข้าใจและมุ่งไปในเป้าหมายเดียวกัน ตั้งแต่ระดับแผนก […]
ที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของ HR ถูกจดจำในรูปแบบของการทำงานในรูปแบบเก่า หรือถูกมองเป็นฝ่ายปกครองภายในองค์กร หากจินตนาการ อาจจะเป็นใครสักคนที่พยายามจับผิด หรือตั้งตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามกับพนักงานอยู่เสมอ ซึ่งภาพลักษณ์แบบนี้ของ HR มักทำลายบรรยากาศในการทำงาน และส่งผลให้พนักงานไม่สามารถดึงศักยภาพของตนออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ HR ในยุค 4.0 จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องลุกขึ้นมา ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของ HR และปรับเปลี่ยนกระบวนการการทำงานต่างๆ เพราะ HR 4.0 จะต้องเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้องค์กรสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน HR 4.0 ต้องปรับกระบวนการทางความคิด การปรับตัวอันดับแรกของการก้าวสู่การเป็น HR ยุคใหม่ ต้องไม่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับพนักงาน เพราะ HR คือเฟืองตัวสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจขับเคลื่อนได้ โดย HR จะต้องสามารถสร้างบรรยากาศการทำงานภายใน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมศักยภายในการทำงานของพนักงานให้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และยังต้องสามารถรักษาพนักงานที่มีคุณภาพไว้ภายในองค์กรได้อีกด้วย HR 4.0 จำเป็นต้องเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆอยู่เสมอ ต้องสามารถนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาผสมผสานกับ HR Skill ที่มี จะช่วยให้การทำงานของ HR สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น สามารถลดขั้นตอนและระยะเวลาการทำเอกสารลงไปได้ อาทิเช่น ระบบ Time Attendance อย่าง JOBCAN […]