เพราะชีวิตเกิดมาแค่ครั้งเดียว เราจึงต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่ามากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ แต่การจัดการชีวิตให้สามารถ Work-Life Balance ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะแม้ว่าจะกำหนดไว้ชัดเจนแล้วว่าจะนอน 8 ชั่วโมง ทำงาน 8 ชั่วโมง และพักผ่อน 8 ชั่วโมงแต่ความเป็นจริงกลับไม่ง่ายดายแบบนั้น เพราะชีวิตมีหลายด้านเกินกว่าจะสามารถกำหนดได้อย่างง่ายดาย

วันนี้ JOBCAN จึงนำเอาหลักการ Work-Life Balance ง่ายๆ ที่ทำให้เราสามารถสร้าง Lifestyle ของเราและกำหนดการ Work-Life Balance ได้ง่ายมากขึ้น โดยมี 5 ข้อ ดังนี้

1. Work-Life Balance ด้วยการเคารพเวลาที่เราแบ่งเอาไว้

ปัญหาอย่างหนึ่งที่ทำให้คนเราไม่สามารถแบ่งเวลาได้อย่างชัดเจนก็เป็นเพราะความคิดฟุ้งซ่านที่ไม่อาจวางงานอื่นออกจากหัวได้นั่นเอง ทำให้แผนการแบ่งเวลาที่เราวางไว้ไม่สามารถไปต่ออย่างมีประสิทธิภาพได้ สุดท้ายก็อาจจะต้องกลับไปทำสิ่งที่ใจห่วงพะวงจนเสียตารางงานไปหมด

ตัวอย่างเช่นในช่วงเวลาพักผ่อนนั้นเมื่อเราตั้งให้พักแล้วก็ต้องพักอย่างเต็มที่เพราะหากเราพักทั้งที่ในหัวยังคิดเรื่องงานอยู่ก็จะเท่ากับว่าเราไม่ได้พักเลย สุดท้ายย่อมกลายเป็นไม่ได้พักไปจนทำให้งานที่ทำออกมาไม่ดีก็เป็นได้ ดังนั้นเราต้องจริงจังและเคารพแผนการที่เราวางไว้ให้ดี พักให้จริงจังเหมือนกำลังทำงาน

2. Work-Life Balance ด้วยการกำหนดความสมดุลของชีวิตด้วยตัวเราเอง

หลายคนบอกว่าความสมดุลคือการแบ่งทุกอย่างเท่ากัน แต่ชีวิตไม่สามารถเป็นแบบนั้นได้ หลายคนเชื่อว่า Work-Life Balance มีความหมายแบบนั้นแต่ความจริงไม่ใช่เลย 

ความสมดุลในชีวิตไม่สามารถกำหนดได้โดยใช้กฎของคนอื่น เพราะชีวิตเป็นของเรา ความสมดุลนั้นเราจึงต้องเป็นคนกำหนดเองโดยการมองภาพรวมทั้งชีวิตของคุณหรือจะมองเป็นภาพรวมทั้งปีก็ได้ แล้วค่อยจัดวางแผนที่เรารู้สึกว่าชีวิตแบบนี้ก็คือ Work-Life Balance ที่ทำให้เรามีความสุข เท่านี้ราก็จะรู้สึกถึงการ Work-Life Balance อย่างชัดเจนแล้ว

3. Work-Life Balance ด้วยการตั้งทุกสิ่งอยู่บนความสุขของเราเป็นสำคัญ

ไม่ว่าเราจะใช้ชีวิตด้านใดก็ตามสิ่งที่เราควรพยายามมีให้ได้ตลอดเวลาคือการมีความสุข Work-Life Balance คือการแบ่งเวลาก็จริงอยู่แต่ถ้าหากว่าด้าน Work เราไม่มีความสุขหรือด้าน Life เราสับสนวุ่นวายขึ้นมาที่สุดแล้วแผนการ Work-Life Balance ของเราก็จะพังทลายลงอยู่ดี

ดังนั้นทำงานให้มีความสุขไปพร้อมกับการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่จะทำให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดอย่างแท้จริง ซึ่งในข้อนี้นั้นจะรวมถึงการปฏิเสธสิ่งที่ไม่อยากทำหรือการทำความรู้จักกับตัวเองอยู่ด้วย เรียกว่าทำได้ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินจะทำแน่นอน

4. Work-Life Balance ด้วยการจัดเรียงลำดับความสำคัญของทุกอย่าง

ใจความสำคัญหลักของการ Work-Life Balance จริงๆ เลยคือการจัดลำดับความสำคัญ เพราะชีวิตของเรามักจะมีสิ่งที่ต้องเลือกอยู่เสมอ ต้องเลือกว่าจะทำอะไรก่อน-หลัง ควรออกกำลังกายก่อนหรือสอนการบ้านลูกก่อน ชีวิตของเรามีสิ่งที่ต้องทำเต็มไปหมดสิ่งที่จะช่วยเราคัดกรองว่าความทำอะไรก่อนก็คือการจัดเรียงลำดับความสำคัญนี่แหละ

การจัดลำดับความสำคัญมักจัดตามความเร่งด่วนและความจำเป็นของสถานการณ์และไม่ควรรอให้งานทุกงานหรือทุกสิ่งที่ต้องทำกลายเป็นความจำเป็นเร่งด่วนไปเสียหมดเช่นการออกกำลังกาย การใช้เวลากับครอบครัวหรือกระทั่งการทำโปรเจ็คในที่ทำงาน ดังนั้นเมื่อมีเรื่องที่ต้องทำเข้ามาเราควรวางแผนให้ดี

5. Work-Life Balance ด้วยการให้ความสำคัญกับระหว่างทาง

การใช้ความสำคัญกับระหว่างทางเองก็เป็นเช่นเดียวกับการมีความสุขเป็นสำคัญแต่ที่กันคือความสุขนั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ระหว่างทางหรือปลายทางกันแน่ ด้วยสถานการณ์ทุกวันนี้ เราไม่จำเป็นจะต้องเข้าออฟฟิศทุกวันอีกแล้ว เพราะความจำเป็นทำให้ต้องมีระบบออนไลน์มารองรับ ในปี 2022 เทรนด์ Workation จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้เรามีความสุขกับธรรมชาติ สภาพแวดล้อมที่ต้องการไปพร้อมๆ กับการทำงานได้

การ Work-Life Balance นั้นทำขึ้นเพื่อให้เราสามารถประสบความสำเร็จได้ในทุกด้านของชีวิตแต่หากระหว่างทางเราต้องฝืนใจทำแล้ว ความสำเร็จนั้นอาจจะไม่ใช่เส้นทางที่คุณต้องการก็เป็นได้ ดังนั้นควรให้ความสำคัญกับความสุขที่ได้จากความสำเร็จเล็กน้อยระหว่างทางด้วย จึงจะทำให้คุณสามารถบริหารชีวิต สร้าง Work-Life Balance ที่ดีได้

สรุป

เทรนด์ของการ Work-Life Balance นั้นฟังดูดีแต่ความเป็นจริงไม่ได้ทำง่ายอย่างที่เราคาดการณ์เอาไว้เลย เพราะความเคยชินไม่สามารถแก้ได้ในวันเดียว ช่วงแรกอาจจะต้องคอยเตือนตัวเองกันสักเล็กน้อยว่าเราจะต้องทำอะไรด้วยความคิดแบบใด แต่หากทำได้จนชินแล้วแนวคิดการ Work-Life Balance นี้จะกลายเป็นนิสัยของเราได้เองเลยทีเดียว

Jobcan Attendance

ระบบเข้าออกงานพนักงาน ตอกบัตรออนไลน์
สนใจระบบ Jobcan ติดต่อ 02-107-1867
LINE@ : @jobcan_th
Facebook : Jobcan Thailand
ลงทะเบียนสอบถามข้อมูล : https://bit.ly/3P0dVmg