ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีหลายองค์กรที่ต้องเผชิญกับปัญหาการจัดการทรัพยากรบุคคล หรือพนักงาน เมื่อเข้าสู่ภาวะวิกฤต COVID-19 เมื่อพนักงานส่วนใหญ่ต้อง lockdown หรือหยุดงาน อาทิ การจัดการปัญหาเรื่องเอกสาร ปัญหาการดำเนินการล่าช้า ฯลฯ หากองค์กรของคุณกำลังมีปัญหาเหล่านี้ ทาง JOBCAN ขอเชิญชวนให้เข้าร่วมการสัมมนาในหัวข้อ “ปรับตัวเข้าสู่ยุค Digital เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ด้วยระบบ Workflow” ซึ่งการสัมมนา hr จะถูกจัดขึ้นในวันเวลาและช่องทางดังกล่าว วัน : พุธ 18 พฤษภาคม 2565 เวลา : 14:00-15:00 PM ช่องทาง : ผ่าน Google Meet*โดยจะส่งลิงค์ตามไปให้หลังจากท่านลงทะเบียนเรียบร้อย ค่าใช้จ่าย : ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย หัวข้อที่จะบรรยาย มีดังนี้ การทำงานในยุค New Normal ทักษะที่จำเป็นต่อองค์กรในยุค New Normal เทคโนโลยี Workflow คืออะไร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างไร วิธีใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด […]
ภายในองค์กรมักจะต้องมีการอนุมัติเอกสารมากมายเพื่อให้งานสามารถเดินหน้าไปได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพียงแต่ในช่วงเวลาของการเดินเอกสารนั้นเป็นช่วงเวลาที่นับว่าใช้ทรัพยากรทั้งเวลา บุคคลและยังมีต้นทุนของอุปกรณ์เครื่องใช้อย่างกระดาษ หมึกพิมพ์และอื่นๆ อีกด้วย ยิ่งในช่วงเวลาที่มีโรคระบาดอย่างโควิด-19 ด้วยแล้วเรียกว่าต้นทุนของการอนุมัติเอกสารออฟไลน์นั้นเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เรามาดูกันว่าปัญหาในการอนุมัติเอกสารแบบเก่านั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง ปัญหาในการอนุมัติเอกสาร รูปแบบของการอนุมัติเอกสารแบบเก่าคือการพิมพ์ลงกระดาษและใช้วิธีการอนุมัติโดยปากกา สิ่งที่น่าอุ่นใจได้คือการอนุมัตินี้ยากต่อการปลอมแปลงระดับหนึ่ง แต่ในทางกลับกันก็ยากต่อการดำเนินการและรักษาด้วยเช่นกัน เรามาดูปัญหา 3 ข้อที่เห็นได้ชัดกันเลย ระยะเวลาในการดำเนินการ การอนุมัติเอกสารแบบออฟไลน์นั้นจะต้องได้พบตัวผู้อนุมัติเท่านั้นจึงจะได้รับการอนุมัติและนำไปดำเนินการต่อได้ซึ่งในช่วงเวลาที่ทุกอย่างต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วฉับไวนั้น วิธีการนี้ย่อมช้าเกินไป หากมีการ Work at home จะยิ่งลำบากในการส่งต่อเอกสารมากขึ้นไปอีกส่งผลให้การทำงานอาจล่าช้าออกไป การติดต่อสื่อสาร แม้ว่าการติดต่อสื่อสารในยุคปัจจุบันนี้นับว่าสะดวกขึ้นอย่างมากแต่สำหรับการส่งต่อเอกสารที่ต้องได้รับอนุมัตินั้นยังมีอุปสรรคอยู่บ้างเพราะหากต้องการความรวดเร็วต้นทุนค่าใช้จ่ายก็จะสูงมากแต่หากต้องการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายสิ่งที่ต้องแลกมาก็คือเวลาในการเดินเอกสารที่มากขึ้น การสัมผัสใกล้ชิด การเว้นระยะห่างระหว่างกันในช่วงเวลานี้นั้นหมายถึงการลดความเสี่ยงทางสุขภาพในระยะยาว แต่กับการอนุมัติเอกสารซึ่งเป็นกระดาษต้องมีการสัมผัสพื้นผิวบนวัสดุเดียวกันทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะสัมผัสกับเชื้อโรคได้มากขึ้น นับเป็นการเพิ่มความเสี่ยงและเป็นต้นทุนที่ค่อนข้างสูงมากทีเดียว ตัวช่วยดีๆ อย่าง Jobcan Workflow สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไรได้บ้าง การเดินอนุมัติเอกสารในช่วงเวลานี้อาจเป็นความยุ่งยากอย่างหนึ่งที่ HR ต้องแก้ไขอย่างรวดเร็วเพื่อการทำงานในช่วงเวลาที่โควิด-19 ยังระบาดอยู่นี้ เรามาดูประโยชน์ที่ตัวช่วยดีๆ อย่าง Jobcan Workflow สามารถช่วยคุณได้กัน ทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา Jobcan Workflow เป็นระบบการอนุมัติเอกสารที่อยู่บน Cloud ทำให้สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลาไม่ว่าจะทำงานอยู่ที่ใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่บ้านหรือการทำงานนอกสถานที่ก็สามารถเข้าถึงเอกสารที่ต้องอนุมัติได้เสมอ ไม่ต้องรอระบบหรือสถานที่แต่อย่างใด ทำให้ระยะเวลาในการดำเนินการอนุมัติเอกสารสั้นลงได้อย่างมากทีเดียว หลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการสัมผัสสิ่งของร่วมกัน เชื้อไวรัสเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็นและควบคุมไม่ได้ทำให้ความเสี่ยงในการติดโรคสามารถเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ที่เราเข้าใกล้หรือสัมผัสกับสิ่งของร่วมกับผู้อื่น […]
องค์กรหรือบริษัทหลายแห่งมีความจำเป็นอย่างมากในการให้บริการหรือดูแลการทำงานตลอด 24 ชั่วโมงทำให้การเข้างานตามปกตินั้นไม่สามารถใช้ได้กับการทำงานในรูปแบบนี้ จึงมีการเข้างานในรูปแบบกะเกิดขึ้นเพื่อให้บริษัทสามารถก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น แต่การทำงานรูปแบบกะยังมีรายละเอียดและข้อควรระวังในการบริหารบุคคลมากกว่านั้น วันนี้ JOBCAN จึงได้รวบรวมเอาการทำงานรูปแบบกะมานำเสนอแล้ว ไปดูกันเลย Shift Work หรือการทำงานเป็นกะ คือ? การทำงานเป็นกะหรือ Shift Work นั้นคือการเข้างานเป็นรอบเวลา เพื่อสลับกันดูแลรับผิดชอบงานอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงหรือเรียกได้ว่าตลอดเวลานั่นเอง ซึ่งในทางกฎหมายแรงงานได้กำหนดเอาไว้ว่าลูกจ้างจะมีเวลาทำงานต่อวันไม่เกิน 8 ชั่วโมงโดยไม่รวมเวลาพัก ทำให้การทำงานเป็นกะโดยส่วนมากมักมีกำหนดเวลาต่อรอบต่อคนไม่เกิน 8-9 ชั่วโมง หมุนเวียนกันไป โดยรูปแบบของการทำงานเป็นกะนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง ทางนี้เลย รูปแบบของการทำงานเป็นกะ การทำงานเป็นกะยังมีรูปแบบที่ต่างกันออกไปตามแต่ละองค์กรจะกำหนดขึ้นเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยจะมีการแบ่งรูปแบบของการทำงานเป็นกะได้ดังนี้ ระบบการทำงานเป็นกะแบบถาวร เป็นการกำหนดเวลาการทำงานให้รับผิดชอบแบบถาวร ไม่เปลี่ยนรอบเวลา เช่นการเข้าทำงานกะกลางคืน เป็นต้น โดยระบบการทำงานเป็นกะแบบถาวรนี้จะช่วยให้ร่างกายของพนักงานสามารถคุ้นชินกับรอบเวลาได้ง่าย แต่ก็อาจส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตในด้านอื่นๆ ได้เช่นกัน ระบบการทำงานเป็นกะแบบหมุนเวียนเร็ว เป็นการหมุนเวียนรอบเวลาการทำงานไปเรื่อยๆ ทำให้พนักงานแต่ละคนอาจได้รอบทำงานรับผิดชอบที่ต่างกันออกไปเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในด้านอื่นๆ ได้อย่างสมดุลมากขึ้น แต่อาจส่งผลเสียต่อการปรับเวลาของร่างกายได้ ระบบการทำงานเป็นกะแบบหมุนเวียนช้า เป็นการปรับการหมุนเวียนรอบเวลาการทำงานเป็นกะให้ช้าลง เช่นการเปลี่ยนกะทำงานทุกไตรมาสหรือครึ่งปี ซึ่งนับเป็นการให้เวลาร่างกายพนักงานได้ปรับความคุ้นชินกับช่วงเวลาทำงาน และยังรักษาความต่อเนื่องของการทำงานได้ด้วย ข้อควรระวังสำหรับการทำงานเป็นกะ เราอาจได้เห็นข้อควรระวังบางอย่างของการทำงานเป็นกะกันไปบ้างแล้ว ซึ่งปัญหาเหล่านี้นั้นเป็นหนึ่งในงานที่ HR จะต้องคอยมองหาวิธีการแก้ไขให้เหมาะสมกับรูปแบบการทำงานเพื่อให้รูปแบบการทำงานอย่างต่อเนื่องนี้ดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพให้ผลลัพธ์ที่ต้องการทั้งกับพนักงานและองค์กรด้วยเช่นกัน […]
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญกับชีวิตประจำวันมากมายโดยเฉพาะกับการทำงานในด้านต่างๆ โดยเฉพาะกับงานระบบอย่างงาน HR ที่มีความเป็นระบบทั้งยังเป็นงานสำคัญที่ต้องทำทุกเดือนอีกด้วย งานที่สำคัญและเป็นระบบนี้จึงสามารถสร้างตัวช่วยอย่างการใช้เทคโนโลยีเข้ามาทำให้เกิดประโยชน์มากมาย หรือเรียกรวมๆ ว่า hr tech ดังนั้นจึงมีการสร้าง HRIS ขึ้นมา เรามาทำความรู้จักกับ HRIS กันเลย HRIS คือ HRIS ย่อมาจาก Human Resource Information System เป็นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศด้านทรัพยากรบุคคล เป็นระบบที่สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนงานของ HR โดยเฉพาะไม่ว่าจะเป็นระบบการบันทึกเวลาการทำงาน การวางแผนโครงสร้างบุคคลในองค์กร การเดินเอกสาร การสร้างเอกสารอนุมัติต่างๆ เป็นต้น เรียกได้ว่า HRIS นี้มีความสำคัญกับบริษัทอย่างมากทีเดียว เพราะส่วนใหญ่เป็นงานสำคัญที่ต้องใช้เวลาในการดำเนินการสามารถใช้งาน HRIS ที่ให้ความสะดวกมากกว่าได้ทันที HRIS ที่ดีของแต่ละองค์กรนั้นจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมของแต่ละองค์กร ซึ่งหากเลือกได้อย่างเหมาะสมจะสามารถช่วยให้องค์กรก้าวสู่เป้าหมายได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพอย่างมากทีเดียว เรามาดูประโยชน์ของ HRIS กันให้ชัดเจนกันดีกว่า ประโยชน์ของ HRIS HRIS เป็นระบบสารสนเทศด้านทรัพยากรบุคคลที่มีประโยชน์อย่างมากในการใช้งานในองค์กร ซึ่งเราได้ยกมาเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน 5 ข้อด้วยกันดังนี้ ระบบสร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนงานของ HR งานของ HR คือการบริหารดูแลทรัพยากรภายในองค์กรไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรอย่างกระดาษ […]
กระดาษเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในหลายองค์กรแต่ขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งสามารถสร้างปัญหาได้อย่างมากมายเช่นกัน เพราะงานส่วนใหญ่มักจะมีระยะเวลาในการดำเนินการ เมื่อสิ้นสุดการทำงานนั้นๆ แล้ว กระดาษจึงกลายเป็นส่วนเกินที่ต้องกำจัดทิ้ง แต่การจัดการเอกสารบางอย่างไม่สามารถทำได้อย่างง่ายดาย จะต้องมีการทำลายเนื้อหาด้านในทิ้งเสียก่อน ซึ่งทำให้องค์กรต้องเสียเวลาและจ่ายต้นทุนในการทำลายทิ้งไปด้วย แน่นอนว่านอกจากการทำลายกระดาษแล้วยังมีปัญหาอีกมากมายที่เกิดขึ้นจากกระดาษภายในองค์กรวันนี้ JOBCAN จึงขอนำเสนอตัวช่วยอย่าง E-document ซึ่งจะสามารถทำให้ปัญหาเกี่ยวกับกระดาษหมดไปได้ ทำความรู้จักกับ E-document E-document คือเอกสารในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งสามารถดูและดำเนินการต่างๆ ได้บนซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเข้าถึงได้เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน จึงทำให้สามารถทำงานได้ง่ายมากขึ้น และยังช่วยลดความผิดพลาดหรืออุบัติเหตุต่างๆ ในการดูแลเอกสารข้อมูลได้ง่ายขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นการใช้ E-document แทนกระดาษยังทำให้กระบวนการการทำงานรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้นด้วย เราลองมาดูประโยชน์ของ E-document กันให้ชัดเจนอีกครั้ง ดังนี้ ประโยชน์ของ E-document ประหยัดต้นทุนทรัพยากรในระยะยาว การเปลี่ยนจากการใช้กระดาษมาเป็นการใช้ E-document นั้นสามารถลดต้นทุนในส่วนของอุปกรณ์สำนักงานอย่างเครื่องพิมพ์ กระดาษ หมึกพิมพ์ เครื่องทำลายเอกสาร และอีกมากมาย ซึ่งต้นทุนของทรัพยากรเหล่านี้นั้นนับว่าไม่น้อยเลยทีเดียว ทำให้การเลือกใช้ E-document แทนกระดาษจะช่วยให้องค์กรสามารถนำต้นทุนทรัพยากรไปลงทุนในด้านอื่นๆ ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าได้ การเดินทางเอกสารและประสานงานรวดเร็วขึ้น ข้อดีอย่างหนึ่งนั้นคือการเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงองค์กรให้เข้ากับยุคสมัยที่การทำงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น หลายองค์กรมีการปรับช่วงเวลาการทำงานให้หลากหลายและไม่จำกัดสถานที่ ซึ่งการเอกสารที่มีลักษณะเป็นไฟล์อิเล็กทรอนิกส์สามารถส่งต่อไปสู่ที่ต่างๆ ได้ง่าย ยิ่งมีการใช้ E-signature ที่สามารถอนุมัติเอกสารผ่านไฟล์ E-document […]
ในการเปิดรับพนักงานใหม่นั้นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นต้องมีอย่างยิ่งคือ job description หรือการอธิบายเกี่ยวกับหน้าที่ตำแหน่งการทำงาน ว่าตำแหน่งที่ต้องการนั้นทำอะไรบ้าง ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นหนึ่งในการคัดเลือกพนักงานทำให้เป็นส่วนสำคัญที่ไม่อาจละเลยได้ เพราะ job description สามารถช่วยคัดกรองพนักงานที่ดีเข้ามาให้เราได้ส่วนหนึ่ง ดังนั้นมันจึงเป็นจุดเริ่มที่องค์กรต้องให้ความสำคัญในการคัดสรรบุคลากรเข้ามา วันนี้ JOBCAN จึงได้นำเอาเรื่องราวเกี่ยวกับ Job description (JD) มานำเสนอกันซึ่งจะมีทั้งรายละเอียด ประโยชน์และลักษณะที่ดีในการเขียนนั้นจะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน รายละเอียดที่ต้องมีของ Job description อย่างที่ทราบกันดีว่า job description คือการอธิบายตำแหน่งหน้าที่การทำงาน แล้วเราควรจะเขียนอธิบายอะไรลงไปบ้างนั้น มาทางนี้เลย โครงสร้างตำแหน่งและทักษะที่ต้องการ สำหรับ job description นั้นจำเป็นอย่างมากที่จะต้องบอกถึงทักษะที่ต้องการและตำแหน่งที่ผู้สมัครจะได้เข้ามา เพราะจะช่วยให้เข้าใจภาพรวมของการเข้าไปเติมเต็มองค์กร และที่สำคัญยังเป็นการพิจารณาถึงโครงสร้างตำแหน่งจึงช่วยให้ผู้สมัครได้เข้าใจถึงบทบาทหน้าที่การทำงานมากขึ้นด้วย บทบาทหน้าที่การทำงาน การเขียน job description ต้องการอธิบายบทบาทหน้าที่การทำงานอย่างชัดเจนเพราะจะเป็นการทบทวนถึงความสามารถและทักษะทั้งในรูปแบบความสามารถและความอดทนว่าจะสามารถรับหน้าที่นี้ได้หรือไม่ ดังนั้นจึงควรเขียนให้ครบถ้วนเพื่อทำความเข้าใจกับผู้สมัครตั้งแต่เริ่มต้น อัตราจ้างหรือค่าตอบแทน ค่าตอบแทนนับเป็นสิ่งสำคัญในการทำงานเลยทีเดียวจึงไม่ควรละเลยในการเขียน job description ในส่วนนี้เพื่อเป็นการทำความเข้าใจและประเมินค่าตอบแทนในการทำงานของพนักงานที่มีต่อตำแหน่งหน้าที่งานนั้นๆ โดยอิงจากโครงสร้างเงินเดือนของแต่ละบริษัท ประโยชน์ของการเขียน Job description ที่ดี การเขียน job description นับเป็นจุดเริ่มต้นในการตามหาบุคลากรที่บริษัทต้องการแล้ว […]
สิ่งสำคัญที่ขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าได้นั้นย่อมเป็นพนักงานหรือทรัพยากรมนุษย์ทุกคนที่สร้างผลงานขึ้นมา แน่นอนว่ายิ่งองค์กรใหญ่มากเท่าใด การดูแลทรัพยากรมนุษย์ก็ยิ่งเป็นสิ่งสำคัญและมีเรื่องราวให้จัดการมากเท่านั้นทำให้ในยุคที่การสร้างผลลัพธ์ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญอย่างนี้ HR ต้องรับศึกหนักทีเดียว หากไม่มีตัวช่วยดีๆ คงเป็นเรื่องยากที่ HR จะสร้างผลลัพธ์ดีๆ ให้พนักงานในองค์กรสามารถมีความสุขกับการทำงานได้ วันนี้ JOBCAN จึงพาทุกคนมารู้จักกับ HR Tech ตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้องค์กรสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและรวดเร็วมากขึ้น เป็นอย่างไรบ้างไปดูกัน ทำความรู้จักกับ HR Tech HR Tech เป็นคำที่ย่อมาจาก HR Technology ซึ่งการการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ HR ให้กระบวนการทั้งหมดเดินไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น มั่นคงมากขึ้นและมีความผิดพลาดน้อยลงด้วยการใช้ระบบดิจิตอลเข้ามาช่วย ทำให้กระบวนการการประสานงานในองค์กรสามารถทำได้อย่างไร้รอยต่อ ตั้งแต่การดูแลพนักงานเข้าใหม่ เวลาการทำงาน การจัดทำเอกสารและอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งปัจจุบันนี้มี HR Tech มากมายที่สร้างขึ้นเพื่อให้พนักงานในองค์กรสามารถได้รับคุณภาพชีวิตที่ดีได้ในองค์กรของตนส่งผลให้การทำงานมีความสุขมากขึ้นและยังเพิ่มเวลาการทำงานในส่วนอื่นที่สำคัญของ HR ได้ด้วย เหตุผลที่ HR Tech กลายเป็นสิ่งจำเป็นในองค์กร เรามาดูประโยชน์ที่องค์กรจะได้หากมีการใช้งาน HR Tech และยังเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายองค์กรเลือกใช้ HR Tech ในการบริหารงานทรัพยากรต่างๆ ในองค์กรด้วย ซึ่งเราได้รวบรวมไว้ 5 ข้อหลักดังนี้ […]
ท่ามกลางวิกฤต COVID-19 หลายบริษัทมีการปรับเปลี่ยนพนักงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจำใจปลดพนักงานเก่าด้วยความจำเป็น หรือการรับพนักงานใหม่เข้ามาแทนที่ในตำแหน่งที่ขาดแคลน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับทุกๆ บริษัทคงหนีไม่พ้นเรื่องของเงินเดือน ที่ต้องปรับเปลี่ยนตามแผนกิจการและกำไรที่ได้รับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของ COVID-19 แล้วทางบริษัท… จะออกแบบระบบบริหารค่าตอบแทนพนักงานอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพสูงที่สุด ? จะจัดทำโครงสร้างเงินเดือนอย่างไรให้เหมาะสม? จะประเมินค่างานพนักงานยังไงให้เชื่อมโยงกับเงินเดือนที่ควรได้รับ? หากคุณเป็นหนึ่งในเจ้าของกิจการ หรือ HR ที่ต้องการไขข้อสงสัยเหล่านี้ และแก้ไขปัญหาเรื่องเงินเดือนให้กับกิจการของคุณ ทาง JOBCAN ขอเชิญชวนให้เข้าร่วมการสัมมนาในหัวข้อ “กลยุทธ์การบริหารเงินเดือนและค่าตอบแทนพนักงานในยุค COVID-19” รายละเอียดการสัมมนา HR มีดังนี้ วัน : พฤหัสบดี 28 เมษายน 2565 เวลา : 10:00-11:00 AM ช่องทาง : ผ่าน Google Meet*โดยจะส่งลิงค์ตามไปให้หลังจากท่านลงทะเบียนเรียบร้อย ค่าใช้จ่าย : ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมสัมมนา 20 ท่าน/รอบ หัวข้อที่จะบรรยายมีดังนี้ การกำหนดค่าตอบแทนพนักงาน ปัจจัยการกำหนดค่าตอบแทนพนักงาน แนวคิดและเทคนิคการออกแบบระบบบริหารค่าตอบแทน การกำหนดนโยบายค่าตอบแทน […]
การคัดเลือกบุคลากรที่มีศักยภาพเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะแม้ว่า HR จะคัดเลือกมาอย่างดีเพียงใดก็ยังคงมีส่วนที่มองไม่เห็น รับรู้ผ่านการพบหน้า สัมภาษณ์ไม่ได้ การรับพนักงานใหม่จึงเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสำหรับองค์กรอย่างหนึ่งเลยทีเดียว เพื่อหาวิธีลดความเสี่ยงนั้น HR จึงต้องหาวิธีการช่วยคัดเลือกซึ่งในยุคดิจิตอลแบบนี้ การดูตัวตนในโลกออนไลน์หรือ Digital Footprint จึงเป็นวิธีการหนึ่งที่ได้ผลดีทีเดียว วันนี้ JOBCAN จึงมานำเสนอความสำคัญของ Digital Footprint ที่ HR สามารถนำเอาให้ประโยชน์ได้นั้นจะได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง ทำความรู้จักกับ Digital Footprint Digital Footprint คือร่องรอยที่เราทิ้งเอาไว้เมื่อมีการเข้าใช้งานโลกออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นการเข้าเว็บไซต์ การโพสแสดงความคิดเห็นหรือแสดงความรู้สึกล้วนทิ้งร่องรอยที่สามารถตามดูได้เสมอ ทำให้สามารถติดตามได้ว่าตัวตนอีกด้านหนึ่งของผู้สมัครเป็นอย่างไรบ้าง นับเป็นประวัติอีกด้านหนึ่งได้เลย ซึ่งร่องรอยนี้กลายเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในการตรวจสอบ ค้นหาและคัดเลือกความสามารถของหลายกรณี ไม่เว้นกระทั่งการคัดเลือกพนักงานที่มีศักยภาพและมีเป้าหมายเดียวกันกับที่องค์กรต้องการด้วยเช่นกัน Digital Footprint สำคัญอย่างไร Digital Footprint หรือรอยเท้าดิจิตอลนี้กลายเป็นสิ่งสำคัญในการตรวจสอบพฤติกรรมเพราะสามารถทิ้งร่องรอยทั้งแบบที่เกิดจากความตั้งใจหรือที่เรียกว่า Active Digital Footprint และแบบที่ไม่ตั้งใจหรือ Passive Digital Footprint ซึ่งร่องรอยเหล่านี้สามารถติดตามพฤติกรรมและตรวจสอบได้ว่าเป็นใคร แน่นอนว่าสามารถตรวจสอบลึกลงไปได้มากเท่าที่ต้องการ ที่สำคัญคือไม่สามารถขจัดทิ้งได้ จึงทำให้ Digital Footprint เป็นสิ่งที่หลายองค์กรให้ความสนใจ HR […]
ในแต่ละยุคสมัยจะมีรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกันออกไปซึ่งรูปแบบการทำงานเหล่านี้นั้นจะมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยและวิถีชีวิตของผู้คนมากที่สุดเท่าที่จะเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งในยุคที่เราโดนบีบบังคับเร่งเร้าจากปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด การพัฒนาของเทคโนโลยีหรือสภาวการณ์ของโลกก็ตาม ช่วงเวลาแบบนี้ทำให้เราต้องเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านอีกครั้งอย่างรวดเร็ว นั่นคือการก้าวเข้าสู่ Digital transformation หลายคนคงสงสัยกันว่า Digital Transformation คืออะไรกันแน่ วันนี้ JOBCAN จึงมาไขข้อสงสัยว่า Digital Transformation คืออะไร แล้วมีความสำคัญอย่างไรบ้าง ทำความรู้จักกับ Digital Transformation Digital Transformation คือการนำเอาเทคโนโลยีดิจิตอลเข้ามาประยุกต์ใช้ในการดำเนินการซึ่งจะตรงตามความหมายคือการเปลี่ยนแปลง (Transformation) เข้าสู่ยุคดิจิตอล (Digital) นับเป็นการเปลี่ยนทั้งกระบวนการทำงานให้เข้าสู่ระบบดิจิตอล ลดความผิดพลาดของมนุษย์และลดต้นทุนเพราะทุกอย่างเข้าสู่รูปแบบดิจิตอลพร้อมกับปรับโมเดลธุรกิจให้สามารถเพิ่มประสบการณ์ทางดิจิตอลให้กับลูกค้าได้คุณค่าใหม่ๆ และความสะดวกสบายที่มากขึ้น ความสำคัญของ Digital Transformation Digital Transformation นั้นเป็นเรื่องที่สมควรต้องทำอย่างยิ่งสำหรับในโลกธุรกิจเพราะการเปลี่ยนแปลงรูปแบบทุกอย่างนี้จะช่วยให้ต้นทุนในการบริหารทรัพยากรควบคุมได้ง่ายมากขึ้นและยังใช้ทรัพยากรน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลา แรงงานหรือทรัพยากรด้านอื่นๆ เช่นกระดาษ หมึกพิมพ์ เครื่องเขียนอื่นๆ เป็นต้น โดยส่วนงานทั้งหมดจะมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยมากขึ้นพร้อมกับการดำเนินโดยพึ่งพาระบบดิจิตอลเข้าช่วยในการดูแลงานด้วย ทำให้ความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์มีน้อยลง สามารถนำเอาทรัพยากรที่มีไปลงทุนกับส่วนงานที่ให้ผลตอบแทนสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจได้มากขึ้น ปัจจัยสำคัญในการเข้าสู่ Digital Transformation การเข้าสู่ช่วง Digital Transformation นั้นบริษัทจะต้องเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานทั้งหมด แต่ยังมีปัจจัยหลักที่เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาสู่ Digital […]
Resume นั้นเรียกว่าเป็นด่านแรกในการแสดงตัวตนให้กับบริษัทได้เห็นว่าเรามีความน่าสนใจอย่างไรบ้างบนพื้นที่กระดาษ A4 จำนวน 1-2 หน้านี้จะทำการนำเสนอตัวตนของผู้สมัครเบื้องต้น ซึ่งเรียกว่าเป้นด่านสำคัญที่สุด หากสร้างความน่าสนใจไม่มากพอจะทำให้โอกาสที่จะได้เข้าสู่รอบถัดไปเป็นไปได้ยากแล้ว วันนี้ JOBCAN จึงมาบอกเคล็ดลับการเขียน resume ว่าควรจะต้องเขียนอย่างไร ให้โดนใจ hr ข้อมูลสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการเขียน resume การเขียน resume คือการแนะนำตัวเองเบื้องต้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใส่ข้อมูลพื้นฐานของผู้สมัครให้ครบถ้วน เพื่อให้ hr สามารถพิจารณาได้ หากใส่ข้อมูลส่วนนี้ไม่ครบย่อมถูกปัดตกอย่างแน่นอน ข้อมูลส่วนตัว สำหรับการเขียน resume นั้นการบอกข้อมูลส่วนตัวเป็นการแนะนำให้ hr สามารถทำความเข้าใจกับตัวตนของเราได้คร่าวๆ ว่ามีชื่ออะไร เรียนจบจากที่ใด ซึ่งข้อมูลส่วนตัวบางอย่างอาจสร้างความน่าสนใจให้กับการสมัครงานในบางตำแหน่งได้ เช่น เป็นคนชอบแต่งหน้า มาสมัครเป็นนักรีวิวเครื่องสำอางค์ เป็นต้น ทักษะและความสามารถ นี่คือสิ่งสำคัญมากในการเขียน resume เพราะสิ่งที่ hr ให้ความสนใจคือทักษะที่เราเคยเรียนรู้หรือได้ใช้มานั้นมีอะไรบ้าง เป็นทักษะที่บริษัทต้องการหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น soft skill หรือ hard skill ก็ตาม ซึ่งบางครั้งทักษะความสามารถบางอย่างของเราอาจตรงกับความต้องการของบริษัทพอดี ก็สามารถได้เข้ามาสัมภาษณ์กันต่อ ดังนั้นจึงควรเขียนทักษะต่างๆ […]
หากกล่าวถึงทักษะการสื่อสารแล้วหลายคนอาจไม่มั่นใจเท่าใดนักว่าทำได้ดีหรือไม่ แต่ในการใช้ชีวิตนั้นปฏิเสธไม่ได้เลยคนที่มีทักษะการสื่อสารที่ดีนั้นย่อมได้เปรียบมากกว่า โดยจะเห็นได้ว่าการสื่อสารที่ดีสามารถสร้างประสิทธิภาพการทำงานได้มากกว่าและยังพาองค์กรไปได้ไกลมากกว่า ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าหลายองค์กรที่ประสบความสำเร็จนั้นมีเทคนิคการสื่อสารภายในองค์กรที่ดี วันนี้ JOBCAN จึงนำเอาทริคการสื่อสารซึ่งมีองค์ประกอบ 7 อย่างด้วยกันมาฝาก แต่ก่อนอื่นเรามาดูความสำคัญในการสื่อสารว่าทำไมองค์กรควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้กัน เหตุผลที่องค์กรควรให้ความสำคัญกับการสื่อสาร เราจะเห็นได้ว่ามีหลายองค์กรที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ แต่บางองค์กรที่มีความคิดหรืออุดมการณ์ที่ดีกลับไปได้ไม่ไกลนัก ส่วนหนึ่งย่อมเป็นเพราะการสื่อสารที่ไม่ดีพอจะทำให้พนักงานหรือคนในองค์กรได้เข้าใจว่าทิศทางขององค์กรจะไปทางใด หรือกล่าวอีกอย่างคือพนักงานไม่ได้เข้าภาพรวมถึงสิ่งที่เห็นไปในทางเดียวกัน ทำให้เกิดปัญหาในการทำงานและอาจกระทบถึงความสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมงาน หัวหน้าลูกน้อง ได้เช่นกัน หลักการ 7C องค์ประกอบความสำเร็จในการสื่อสาร การสื่อสารนั้นไม่ได้จำกัดเพียงการพูดเท่านั้นแต่ยังเป็นเรื่องของการนำเสนองาน การเขียน การออกความคิดเห็นและอื่นๆ อีกมากมาย แต่เราสามารถใช้หลักการเดียวกันในการพัฒนาให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ โดยเป็นหลักการ 7C ดังนี้ ชัดเจน (Clear) ความสำคัญของการสื่อสารคือการทำให้ทุกคนเข้าใจตรงกันอย่างชัดเจนว่าสิ่งที่สื่อสารออกมานั้นมีใจความสำคัญอย่างไร โดยไม่จำเป็นต้องนำไปตีความหรือทำให้เกิดการตีความไปเป็นอย่างอื่นได้ ดังนั้นผู้สื่อสารควรเรียบเรียงสารของตนให้ตรงกับเป้าหมายในการสื่อสารอย่างชัดเจนที่สุดเสียก่อน ถูกต้อง (Correct) ความถูกต้องของข้อมูลนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากเพราะหากข้อมูลที่สื่อสารออกไปผิดพลาดหรือไม่ใช่ข้อเท็จจริงจะส่งผลให้ความน่าเชื่อถือของผู้สื่อสารลดลงและความเคลือบแคลงกังขาในสารของผู้สื่อสารนั้น ทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้ ครบถ้วน (Complete) ในแต่ละการสื่อสารจะมีเป้าหมายสำคัญที่ต้องการจะสื่อออกไปให้ผู้รับสารรับทราบ โดยสำหรับ 7C ในหลักความครบถ้วนนี้ การสื่อสารจะต้องมีข้อมูลครบถ้วนเพื่อให้เกิดผลตามเป้าหมาย ไม่ให้ผู้รับสารเกิดความสงสัย เพราะการมีข้อมูลที่ครบถ้วนจะช่วยให้การตัดสินใจเกิดความรอบคอบมากขึ้นได้ หนักแน่นมีสาระ (Concrete) หลักการ 7C ว่าด้วยความหนักแน่นมีสาระนี้หมายถึงการเฉพาะเจาะจงเรื่องที่ต้องการสื่อสาร โดยไม่ควรสื่อสารเรื่องราวให้กว้างเกินไปจนจับประเด็นไม่ได้ เน้นความหนักแน่นมีการยกเหตุผลข้อมูลเข้ามาประกอบอย่างจริงจังเพื่อเพิ่มความมีสาระของเนื้อหาและความน่าเชื่อถือของข้อมูลด้วย กระชับ […]