สภาพแวดล้อมและสังคมการทำงานเป็นปัจจัยหนึ่งที่สามารถดึงดูดให้พนักงานร่วมงานกับองค์กรหรือบริษัทนานมากขึ้น และยังสามารถเรียกให้คนที่มีศักยภาพหันมาสนใจในองค์กร แต่การสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่นั้นอาจไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคนในองค์กรเข้ามามีส่วนร่วม โดยสิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้เลยคือ การสร้าง Empathy Culture นั่นเอง

วันนี้ JOBCAN จึงได้นำเอารายละเอียดเกี่ยวกับ Empathy Culture ว่าเป็นอย่างไร รวมถึงประโยชน์ของ Empathy Culture และวิธีการฝึกฝนว่าควรทำอย่างไรให้องค์กรมี Empathy Culture

ทำความรู้จักกับ Empathy Culture

Empathy Culture หรือวัฒนธรรมความเข้าใจผู้อื่น มาจากคำว่า Empathy ซึ่งมีความหมายว่าความสามารถในการเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น มาบวกกับคำว่า Culture ซึ่งแปลว่า วัฒนธรรม จึงแปลได้ว่า วัฒนธรรมความเข้าใจผู้อื่น โดยเป็นการสร้างความเอาใจเขามาใส่ใจเรา นั่นเอง 

ประโยชน์ของ Empathy Culture

องค์กรที่มี Empathy Culture ย่อมมีความแตกต่างจากองค์กรที่ไม่มีอย่างมาก โดยเฉพาะบรรยากาศการทำงาน การร่วมมือและประสิทธิภาพของผลงานที่ได้ ซึ่งประโยชน์ของ Empathy Culture นั้นสามารถเห็นได้ชัดเจน 4 ข้อ ดังนี้

ทำให้เกิดความร่วมมือที่เข้ากันได้ดีมากขึ้น

Empathy Culture นั้นช่วยให้พนักงานเกิดความรู้สึกต้องการจะเข้าใจเพื่อนร่วมงานมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวที่อาจส่งผลกระทบกับงานไม่มากก็น้อย และเรื่องงานที่ต้องทำร่วมกันอย่างในส่วนงานของเพื่อนร่วมงานหรือกระบวนการภาพรวมซึ่งทำให้การประสานงานราบรื่นมากขึ้น มีการคิดถึงช่วงการส่งต่องานให้กันและกัน 

ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

เมื่อมีการประสานงานที่ดีและมีความเข้าใจในภาพรวมของการทำงานที่ชัดเจน การแสดงความคิดเห็นเพื่อพัฒนาผลงานย่อมทำได้ โดยอ้างอิงจากความสามารถของเพื่อนร่วมงานจึงเกิดขึ้นได้จริง และเมื่อเกิดปัญหาใดขึ้นมา การแก้ปัญหาก็สามารถทำได้ง่ายมากขึ้นเพราะทุกคนต่างเข้าใจส่วนงานทั้งหมดแล้ว ทำให้สามารถคาดหวังกับประสิทธิภาพของการทำงานได้ตามผลที่คาดการณ์เอาไว้

ช่วยสร้าง Loyalty ให้พนักงานรักองค์กรมากขึ้น

การเอาใจใส่และคอยช่วยเหลือกันและกันอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะเป็นจากเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าเองต่างก็เป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี ทำให้พนักงานรู้สึกผูกพันกับเพื่อนร่วมงาน สร้างเป็นมิตรภาพอันดีในที่ทำงาน ทำให้ชีวิตการทำงานมีความสุขมากขึ้น แล้วพนักงานจะมองหาที่ทำงานใหม่ไปทำไมกัน

ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสุขภาพจิตได้

การทำงานนั้นเป็นการใช้เวลาส่วนใหญ่ของวันร่วมกับเพื่อนร่วมงาน เรียกได้ว่าช่วงเวลาส่วนใหญ่ของชีวิตในวัยทำงานจะถูกใช้ไปกับการทำงาน แต่หากการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตร ต้องคอยระแวดระวังเรื่องของผลประโยชน์ทั้งที่เป็นการทำงานร่วมกัน ย่อมไม่สร้างความสุขอย่างแน่นอน แต่หากมีความเอาใจใส่ซึ่งกันและกันเกิดขึ้นย่อมช่วยให้สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ทุกคนต่างมีความสุข และยังทำให้พนักงานอยู่นานขึ้นอีกด้วย

วิธีการฝึกฝนให้สมาชิกในองค์กรมี Empathy Culture

ได้เห็นประโยชน์มากมายของ Empathy Culture กันไปแล้ว หลายคนคงอยากทราบถึงวิธีการสร้าง Empathy Culture ว่าจะต้องทำอย่างไรให้องค์กรเกิดความเอาใจใส่ซึ่งกันและกันได้ JOBCAN จึงได้เตรียมมาแล้วถึง 3 วิธีด้วยกัน ดังนี้

การทดลองบทบาทสมมติ

การทดลองบทบาทสมมตินั้น จะทำให้พนักงานเกิดการจำลองความคิดหรือสิ่งที่เกิดขึ้นกับบุคคลที่สมมติเป็น แล้วทบทวนถึงปัญหาพร้อมทั้งวิธีการแก้ไขที่สามารถทำได้ โดยในระยะเริ่มแรกสามารถสมมติบทบาทเป็นสัตว์ เด็กหรือคนชรา ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่เข้าใจได้ง่ายและช่วยสร้างความสนุกสนานภายในองค์กรได้ด้วย

เปิดโอกาสให้รับฟังความคิดเห็น

หลายคนอาจจะงงว่าควรเป็นโอกาสในการแสงดความคิดเห็นหรือไม่ ซึ่งการแสดงความคิดเห็นนั้นสามารถทำได้ง่ายแต่การรับฟังอย่างแท้จริงพร้อมกับทำความเข้าใจไปด้วยกลับไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่ายเลย ดังนั้น HR หรือหัวหน้าทีมควรสร้างโอกาสให้สมาชิกในองค์กรได้แสดงออกถึงการรับฟังความคิดเห็น 

มองความผิดพลาดเป็นเรื่องปกติ

ความผิดพลาดเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอซึ่งการแยกถูกผิดอย่างชัดเจนนั้นจะกลายเป็นสร้างความบาดหมางแก่สมาชิกในทีมได้ง่าย ลองเปลี่ยนเป็นการมองความผิดพลาดเป็นเรื่องปกติที่สามารถแก้ไขได้ร่วมกัน หรือมีหัวหน้าคอยช่วยเหลืออยู่เสมอ เมื่อเกิดประสบการณ์แล้วย่อมส่งต่อความช่วยเหลือนี้ไปยังเพื่อนร่วมงานต่อไปแน่นอน

การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาค่อยๆ ทำการเปลี่ยนแปลงไปทีละนิด วันหนึ่งย่อมสามารถสร้างวัฒนธรรมองค์กรตามที่ต้องการได้อย่างแน่นอน Empathy Culture ก็เช่นกัน 

Jobcan Attendance

ระบบเข้าออกงานพนักงาน ตอกบัตรออนไลน์
สนใจระบบ Jobcan ติดต่อ 02-107-1867
LINE@ : @jobcan_th
Facebook : Jobcan Thailand
ลงทะเบียนสอบถามข้อมูล : https://bit.ly/3P0dVmg